- ขายบ้านคุณตอนนี้!
- สมัครสมาชิก / เข้าสู่ระบบ
-
ภาษาไทย- th
-
THB - ฿
โครงการ เม้าเทนท์ วิลเลจ 2 เป็นโครงการประเภท บ้านเดี่ยว / วิลล่า ตั้งอยู่ในทำเลพื้นที่ นาจอมเทียน, พัทยา และได้สร้างเสร็จแล้วเมื่อ ธ.ค. 2559 โดยมีทั้งหมด 33 ยูนิต ซึ่งเป็นโครงการคุณภาพโดย Mabe Development Co., Ltd.
บ้านเดี่ยวสไตล์โมเดิร์นเพื่อการพักผ่อนและอยู่อาศัย สัมผัสบรรยากาศธรรมชาติที่รายล้อมไปด้วยภูเขา เหมาะสำหรับการใช้ชีวิตแบบครอบครัวที่ชอบความเงียบสงบได้ที่ เม้าเทนท์ วิลเลจ 2 (Mountain Village 2)
เม้าเทนท์ วิลเลจ 2 (Mountain Village 2) ได้รับการออกแบบให้บ้านแต่ละหลังมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เน้นความทันสมัยและเรียบหรู ภายในตัวบ้านเน้นการดีไซน์ที่ทันสมัยสไตล์โมเดิร์น จัดแบ่งทุกพื้นที่ให้มีการใช้งานได้อย่างเกิดประโยชน์และคุ้มค่ามากที่สุด มีการใช้ประตูหน้าต่างด้วยกระจกบานใหญ่ที่สามารถเปิดใช้งานได้จริง ทำให้บ้านมีความโล่งสบาย มาพร้อมสระว่ายน้ำที่ให้ความเป็นส่วนตัว รอบบริเวณบ้านมีพื้นที่กว้างขวาง สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการครบครัน อาทิ สระว่ายน้ำ คลับเฮ้าส์ สวนสาธารณะ ห้องฟิตเนส สนามเทนนิส รวมไปถึงมีระบบการรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง รังสรรค์ทุกพื้นที่เพื่อความสุขแห่งการพักผ่อนและการอยู่อาศัยได้อย่างสมบูรณ์แบบ ให้ทุกคนในครอบครัวเพลิดเพลินและมีความสุข
การเดินทางสะดวกสบายอยู่ติดกับถนนทำให้ทุกการเดินทางเป็นเรื่องง่าย อีกทั้งอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพใช้เวลาเดินทางไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น เม้าเทนท์ วิลเลจ 2 (Mountain Village 2) อยู่ใกล้สถานที่ท่องเที่ยวและแหล่งอำนวยความสะดวกสำคัญหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็น ไร่องุ่นซิลเวอร์เลค, หาดบ้าน อำเภอ, 7-Eleven นาจอมเทียนซ.14, และเทสโก้โลตัส เคหะนาจอมเทียน ที่เอื้ออำนวยความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตและตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ได้อย่างลงตัว
รายละเอียดและที่ตั้งของโครงการ
เม้าเทนท์ วิลเลจ 2 (Mountain Village 2) เป็นที่อยู่อาศัยประเภทบ้านเดี่ยว/วิลล่า ที่มีทั้งบ้านชั้นเดียว บ้านชั้นครึ่งและบ้านสองชั้น จำนวนทั้งหมด 33 ยูนิต มีขนาดเนื้อที่โครงการประมาณ 15 ไร่ ตั้งอยู่ที่ เขามะละกอ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี สร้างเสร็จเมื่อปี พ.ศ.2559 โดยได้รับการพัฒนาโครงการจาก บริษัท มาเบ่ ดีเวลลอปเมนท์
รูปแบบบ้านและขนาดพื้นที่ใช้สอย
เม้าเทนท์ วิลเลจ 2 (Mountain Village 2) จะมีแบบบ้านให้เลือกมากถึง 4 แบบตามความต้องการของแต่ละคน โดยจะมีพื้นที่ใช้สอยเริ่มต้นที่ 116 - 385 ตารางเมตร และมีแบบบ้านดังต่อไปนี้
- แบบ A บ้านชั้นเดียว 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ
- แบบ B บ้านชั้นครึ่ง 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ
- แบบ C บ้านชั้นครึ่ง 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ
- แบบ D บ้านสองชั้น 5 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ
สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ
- ห้องออกกำลังกาย
- ห้องอบไอน้ำ
- คลับเฮ้าส์
- สระว่ายน้ำ
- สนามเด็กเล่น
- สนามเทนนิส
- สวนสาธารณะ
- กล้องวงจรปิด
- รปภ. 24 ชั่วโมง
การเดินทางไปยังโครงการ
การเดินทางด้วยรถยนต์ - ถ้าหากเริ่มเดินทางจาก หาดบ้านอำเภอ ระยะทางประมาณ 5.9 กิโลเมตร ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 9 นาที โดยให้มุ่งหน้าไปทางทิศตะวันออกบนซอยนาจอมเทียน 32 เพื่อไปยังถนนหมายเลข 3 และให้เดินทางต่อไปอีก 400 เมตร เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนหมายเลข 3 ไปต่ออีก 220 เมตร ให้กลับรถและเดินทางต่อไปอีกประมาณ 2.1 กิโลเมตร ให้เลี้ยวซ้ายและเดินทางต่อไปอีก 2.7 กิโลเมตร หลังจากนั้นเลี้ยวซ้ายเพื่อเข้าสู่ซอยไร่อ้อยไปต่ออีก 170 เมตร ให้เบี่ยงซ้ายเข้าซอยไร่อ้อย และไปต่ออีก 260 เมตร ให้ขับตรงต่อไปจะเดินทางมาถึงพื้นที่เขามะละกอ ขับต่อไปอีกประมาณ 84 เมตร ก็จะเจอโครงการ เม้าเทนท์ วิลเลจ 2 (Mountain Village 2) อยู่ทางด้านซ้ายมือ
ลองเช็คดูก่อนว่าบ้านของคุณนั้นควรมีราคาอยู๋ที่ประมาณเท่าไหร่ ในทำเลนี้?
หากคนไทยแต่งงานกับชาวต่างชาติ แล้วต้องการจะซื้อบ้านหรือที่ดิน แล้วทำการโอนกรรมสิทธิ์ในชื่อของคู่สมรสชาวต่างชาตินั้น ตามกฎหมายไทยจะไม่ให้ชาวต่างชาติ ถือครองที่ดินในประเทศไทยได้ ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้
แต่หากมีความยินยอมระหว่างกันก็สามารถโอนเป็นชื่อคู่สมรสคนไทยได้ตามปรกติ โดยจะมีความซับซ้อนขึ้นอีกเล็กน้อย แบ่งเป็นกรณี
1. "คู่สมรสชาวต่างชาติเตินทางไปที่กรมที่ดินด้วยไม่ได้" จะไม่สามารถใช้เอกสารมอบอำนาจแบบคนไทยได้ แต่จะต้องขอบันทึกถ้อยคำรับรองว่าเงินทั้งหมดที่นำมาซื้อบ้านหรือที่ดินนี้ เป็นทรัพย์สินส่วนตัว ไม่ใช่สินสมรส และให้หน่วยงาน เช่น สถานเอกอัครราชทูต สถานกงสุล หรือโนตารีพับลิค ทำการรับรองว่าทั้งคู่เป็นสามี ภรรยาจริง และให้คู่สมรสคนไทยนำเอกสารรับรอง (เอกสารตัวจริง) ไปดำเนินการต่อที่กรมที่ดินเองต่อไป
2. "หากคู่สมรสชาวต่างชาติสามารถเดินทางไปพร้อมกับคนไทยที่เป็นคู่สมรสได้" ก็แค่ยินดีเซ็นรับรองว่าบ้านหรือที่ดินแปลงที่กำลังจะซื้อกันนี้ จะตกเป็นกรรมสิทธิ์ของคู่สมรสคนไทยเพียงฝ่ายเดียวเท่านั้น
หากคุณได้เข้าเยี่ยมชมโครงการ เม้าเทนท์ วิลเลจ 2 และตัดสินใจเลือกยูนิตที่ต้องการแล้ว คุณต้องเตรียมตัวกับเรื่องต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
- โอนเงินมัดจำการจอง
- ทำสัญญาตกลงซื้อขาย (อาจจะมีการชำระเงินเพิ่มบางส่วน)
- ผ่อนชำระเงินดาวน์ตามงวดที่ตกลง (ถ้ามี)
- ทำเรื่องเอกสารเพื่อขอกู้ยืมกับธนาคาร
- กำหนดการตรวจรับบ้าน
- หากพบเจอปัญหาการตรวจรับ ให้ลงรายการและแจ้งโครงการให้แก้ไข
- ตรวจรับบ้านรอบสุดท้าย
- กำหนดการโอนกรรมสิทธิ์ และ เซ็นสัญญากู้ยืมกับธนาคาร
หากอยากกู้ซื้อบ้าน หรือ คอนโด ให้ผ่านการพิจารณาจากธนาคารง่ายๆ ควรวางแผนให้กับตัวเองดังนี้
1. พยายามเคลียร์หนี้สินให้หมดก่อน
- เพราะธนาคารจะนำตัวเลขหนี้สินเหล่านั้นมาเป็นส่วนพิจารณาด้วย คุณจึงควรจัดการหนี้สินเหล่านั้นให้หมดเรียบร้อยก่อน หรือ ทำให้จำนวนงวดผ่อนเหลือน้อยที่สุดก่อน จะเป็นการง่ายต่อการพิจารณาสินเชื่อ
2. พยายามทำตัวเลขเดินบัญชี Statement ให้ดูดี
- สิ่งที่ควรดำเนินการควบคู่ไปกับการลดตัวเลขหนี้สิน คือการมีตัวเลขในบัญชีที่ดูดีไปด้วย หรือที่เรียกกันว่า การเดินรายการบัญชี (เดิน Statement) เพราะเป็นส่วนที่ธนาคารจะนำมาพิจารณาย้อนหลัง อาจจะดูตัวเลขย้อนหลัง 6-12 เดือน
3. มีเงินดาวน์บ้านเอาไว้สักก้อน
- หากคุณเริ่มมองหาบ้านสักหลังไว้แล้ว คุณควรจะมีเงินดาวน์ไว้ช่วยทำให้ทางธนาคารสามารถปล่อยสินเชื่อส่วนที่เหลือให้ได้สูงขึ้น และ ง่ายขึ้น อาจจะสัก 5-20% ขึ้นอยู่กับโครงการ และ สายอาชีพและแหล่งรายได้ของผู้กู้เองด้วย
ในยุคปัจจุบัน พบว่ามีผู้ที่สนใจซื้อบ้านมือสองเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนที่มากขึ้น เพราะด้วยหลายๆเหตุผลที่ต้องการ ทั้งยังอยากใกล้ชิดกับครอบครัว ใกล้สถานศึกษา โรงพยาบาล และอยากใช้ชีวิตสะดวกมากขึ้น ซึ่งการจะให้ได้บ้านในลักษณะนี้ จำเป็นต้องเพิ่มทางเลือกให้มากขึ้น ด้วยการมองไปที่บ้านมือสอง ซึ่งข้อดีของบ้านมือสองมีอะไรบ้าง ลองพิจารณาจาก 5 เหตุผลนี้
1. ราคาที่เข้าถึงได้
- บ้านมือสองมักมีราคาที่เข้าถึงได้มากกว่าบ้านใหม่ในทำเลเดียวกัน และยังสามารถต่อรองราคาได้สูงอีกด้วย
2. ได้เห็นปัญหาของบ้าน
- ท่านจะสามารถรู้ถึงปัญหาที่อาจเกิดขึ้น หรือ กำลังเกิดขึ้นอยู่ในขณะนั้น เช่น ท่อตัน, หลังคารั่ว พื้นหรือกำแพงทรุด ซึ่งนำไปพิจาณาว่าจะซ่อม หรือ มองหลังอื่นแทน
3. วัสดุคุณภาพ
- บ้านมือสองที่มีอายุมากขึ้น มักมีคุณภาพของวัสดุที่ดีกว่าบ้านมือ 1 เช่น เสา-คานที่แข็งแรงมากกว่า เพราะพิสูจน์จากการผ่านมาหลายฝน หลายหนาวมาแล้ว
4. เข้าอยู่ได้ทันที
- บ้านมือสองมักพร้อมเข้าอยู่ทันทีหลังการซื้อ ไม่ต้องรอให้การก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์ อีกทั้งยังอาจจะไม่ต้องซื้อของเข้าบ้านเพิ่มเติม จากบ้านที่ขายพร้อมเฟอร์นิเจอร์
5. การสำรวจสภาพแวดล้อม
- ท่านจะมีโอกาสสำรวจและเรียนรู้เกี่ยวกับสภาพแวดล้อมและชุมชนโดยรอบก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ ทั้งเรื่องของเพื่อนบ้าน, สิ่งอำนวยความสะดวก, และปัจจัยอื่น ๆ ที่มีผลต่อคุณภาพชีวิตของท่าน