- ปล่อยเช่า คลิก!
- สมัครสมาชิก / เข้าสู่ระบบ
-
ภาษาไทย- th
-
THB - ฿
โครงการ เนบู เรสซิเดนซ์ จอมเทียน เป็นโครงการประเภท คอนโด / อพาร์ทเม้นท์ ตั้งอยู่ในทำเลพื้นที่ นาจอมเทียน, พัทยา ซึ่งมีแผนการก่อสร้างให้แล้วเสร็จใน ธ.ค. 2567 โดยมีทั้งหมด 4 ชั้น รวมทั้งสิ้น 1 ยูนิต ซึ่งเป็นโครงการคุณภาพโดย AZURE RICH GROUP และเป็นบริษัทเดียวกันที่ได้พัฒนาโครงการ Nebu Residences Bangtao (เนบู เรสซิเดนซ์ บางเทา) อีกด้วย
ลองเช็คดูก่อนว่าบ้านของคุณนั้นควรมีราคาอยู๋ที่ประมาณเท่าไหร่ ในทำเลนี้?
หากคนไทยแต่งงานกับชาวต่างชาติ แล้วต้องการจะซื้อบ้านหรือที่ดิน แล้วทำการโอนกรรมสิทธิ์ในชื่อของคู่สมรสชาวต่างชาตินั้น ตามกฎหมายไทยจะไม่ให้ชาวต่างชาติ ถือครองที่ดินในประเทศไทยได้ ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้
แต่หากมีความยินยอมระหว่างกันก็สามารถโอนเป็นชื่อคู่สมรสคนไทยได้ตามปรกติ โดยจะมีความซับซ้อนขึ้นอีกเล็กน้อย แบ่งเป็นกรณี
1. "คู่สมรสชาวต่างชาติเตินทางไปที่กรมที่ดินด้วยไม่ได้" จะไม่สามารถใช้เอกสารมอบอำนาจแบบคนไทยได้ แต่จะต้องขอบันทึกถ้อยคำรับรองว่าเงินทั้งหมดที่นำมาซื้อบ้านหรือที่ดินนี้ เป็นทรัพย์สินส่วนตัว ไม่ใช่สินสมรส และให้หน่วยงาน เช่น สถานเอกอัครราชทูต สถานกงสุล หรือโนตารีพับลิค ทำการรับรองว่าทั้งคู่เป็นสามี ภรรยาจริง และให้คู่สมรสคนไทยนำเอกสารรับรอง (เอกสารตัวจริง) ไปดำเนินการต่อที่กรมที่ดินเองต่อไป
2. "หากคู่สมรสชาวต่างชาติสามารถเดินทางไปพร้อมกับคนไทยที่เป็นคู่สมรสได้" ก็แค่ยินดีเซ็นรับรองว่าบ้านหรือที่ดินแปลงที่กำลังจะซื้อกันนี้ จะตกเป็นกรรมสิทธิ์ของคู่สมรสคนไทยเพียงฝ่ายเดียวเท่านั้น
หากคุณได้เข้าเยี่ยมชมโครงการ เนบู เรสซิเดนซ์ จอมเทียน และตัดสินใจเลือกยูนิตที่ต้องการแล้ว คุณต้องเตรียมตัวกับเรื่องต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
- โอนเงินมัดจำการจอง
- ทำสัญญาตกลงซื้อขาย (อาจจะมีการชำระเงินเพิ่มบางส่วน)
- ผ่อนชำระเงินดาวน์ตามงวดที่ตกลง (ถ้ามี)
- ทำเรื่องเอกสารเพื่อขอกู้ยืมกับธนาคาร
- กำหนดการตรวจรับบ้าน
- หากพบเจอปัญหาการตรวจรับ ให้ลงรายการและแจ้งโครงการให้แก้ไข
- ตรวจรับบ้านรอบสุดท้าย
- กำหนดการโอนกรรมสิทธิ์ และ เซ็นสัญญากู้ยืมกับธนาคาร
สำหรับคอนโดมือหนึ่ง
- ก่อนการยื่นกู้ ผู้ซื้อจะต้องผ่อนชำระเป็นเงินดาวน์กับโครงการเป็นระยะเวลาหนึ่งตามตกลง เพราะฉะนั้นผู้ซื้อควรต้องมีเงินเก็บอยู่ก้อนหนึ่งสำหรับผ่อนดาวน์ให้ครบสัญญา
- เมื่อยื่นกู้ ทางธนาคารมักจะอนุมัติให้กู้ได้เต็มจำนวน 100% ของยอดที่เหลือหลังผ่อนดาวน์ เพราะธนาคารจะประเมินว่าท่านมีศักยภาพเพียงพอในการผ่อนชำระ
สำหรับคอนโดมือสอง
- ไม่มีระบบผ่อนดาวน์กับทางผู้ขาย ก่อนการยื่นกู้
- ธนาคารมักจะไม่อนุมัติเต็มจำนวนให้ โดยทั่วไปจะอนุมัติที่ 80 - 90% ของราคาประเมิน หรือ ราคาซื้อขาย (ธนาคารมักจะเลือกราคาที่ต่ำกว่า)
- ผู้ซื้อควรต้องมีเงินสำรอง เพื่อรองรับกับยอดกู้ที่ขาดไป 10-20% เพื่อเป็นเงินจ่ายตรงให้กับผู้ขาย
- ผู้ซื้อควรมีเงินสำรองอีกก้อน เพื่อใช้สำหรับการซ่อมบำรุง
ทั้งนี้ ผู้ซื้อสามารถเลือกเปรียบเทียบการปล่อยกู้ของแต่ละธนาคารได้ก่อนการยื่นกู้ ซึ่งรายละเอียดอาจจะแตกต่างจากที่กล่าวมาข้างต้น ขึ้นอยู่กับอีกหลายปัจจัยและนโยบายของแต่ละธนาคาร
การซื้อคอนโดนั้น สามารถทำได้ตั้งแต่ที่ยังไม่ได้เริ่มก่อสร้าง หรือกำลังก่อสร้างอยู่ รวมไปถึงหากอยากมั่นใจริงๆ คือซื้อในช่วงที่ก่อสร้างเสร็จแล้ว ก็สามารถทำได้ แต่อาจจะไม่ได้ห้องที่ต้องการหลงเหลืออยู่แล้ว เพราะโดยส่วนใหญ่ โครงการคอนโดมักจะเริ่มเปิดขายตั้งแต่ช่วงยังไม่ได้เริ่มก่อสร้างเลย โดยใช้กลยุทธทางการตลาดต่างๆ เพื่อดึงผู้ซื้อเข้ามาเพื่อนำเงินจองทำสัญญาและเงินดาวน์ต่างๆ เข้ามาเพิ่มเป็นเงินทุนในการดำเนินการก่อสร้างของโครงการ ซึ่งนี่ก็เป็นข้อดีอย่างหนึ่งของผู้ซื้อ ดังนี้
1. ได้รับโปรโมชั่นที่น่าสนใจมากกว่าปรกติ เช่น ส่วนลดพิเศษถ้าซื้อช่วง Pre-Sale, ได้รับเฟอร์นิเจอร์ในคอนโดหลายชิ้นฟรี, ฟรีค่าธรรมเนียมต่างๆ, หรือส่วนลดค่าส่วนกลางตามระยะที่กำหนด ฯลฯ
2. สามารถเลือกห้องที่ต้องการได้อย่างเสรี ทั้งแบบห้อง และ ทำเลของห้องเพราะเหลือห้องให้เลือกมากมาย
3. ธนาคารสามารถปล่อยให้กู้ได้เต็มจำนวนของค่าห้อง
4. หากท่านเป็นนักลงทุน การซื้อห้องแบบ Pre-Sale ก็จะช่วยให้ท่านสามารถเพิ่มกำไรในการ ปล่อยเช่า หรือ ขายต่อ ได้ดีมากอีกด้วย
แต่ในข้อดีบางอย่างที่กล่าวมาข้างต้น ท่านก็ควรพิจารณาถึงข้อเสียไว้ด้วย ซึ่งมีโอกาสเกิดขึ้นได้ ดังนี้
1. การก่อสร้างไม่แล้วเสร็จตามกำหนด จึงไม่เหมาะกับคนที่ต้องการเข้าอยู่แบบเร่งด่วน หรือไม่เผื่อระยะเวลาให้กับการก่อสร้าง
2. ไม่ผ่านการขออนุมัติ EIA (หลายโครงการเปิดขายไปแล้ว ก่อสร้างไปแล้ว แต่ยื่นขอไม่ผ่าน)
3. หากเกิดข้อพิพาทใดๆ ในระหว่างการก่อสร้าง หรือ หลังจากสร้างเสร็จ ทำให้เสียเวลาในการฟ้องร้องและเสียสุขภาพจิตเป็นอย่างมาก
4. มีโอกาสที่วิวต่างๆ หรือบรรยากาศการเข้าพัก ที่เคยคิดไว้ว่าเราจะได้รับเป็นอย่างดีเมื่อตอนก่อนก่อสร้าง จะถูกบดบังในอนาคตเพราะโครงการใหม่ ๆ อาจจะก่อสร้างในภายหลังได้
โครงการ เนบู เรสซิเดนซ์ จอมเทียน อยู่ห่างจาก 7-Elevenสุขุมวิท-หนองจับเต่า เพียงแค่ 390 เมตรเท่านั้น ซึ่งใช้เวลาเดินไปเพียง 5 นาที
และยังมีร้านต่างๆ ที่อยู่ใกล้กับโครงการ เนบู เรสซิเดนซ์ จอมเทียน ซึ่ง 3 ร้านที่ใกล้ที่สุด คือ
- บริษัทสยามกรีนเอ็นจิเนีย อยู่ห่างไปเพียง 140 เมตร (เดินแค่ประมาณ 2 นาที)
- คอนโดเทพศาลพระภูมิเจ้าที่หลาหหลายสไตล์-สาขาใหญ่พัทยา อยู่ห่างแค่ 630 เมตรเท่านั้น (ใช้เวลาเดินประมาณ 8 นาที)
- FEN 建材 ซึ่งอยู่ห่างไปแค่ 1.5 กม. (สามารถขับรถไปแค่ประมาณ 2 นาที)
ร้านอาหารที่ใกล้กับโครงการ เนบู เรสซิเดนซ์ จอมเทียน นั้นมีให้เลือกมากมาย เราขอเสนอร้านที่ใกล้ที่สุด ดังนี้
- ก๋วยเตี๋ยวเรือปทุม 8 นั้นอยู่ใกล้กับโครงการเพียง 280 เมตร (ซึ่งคุณสามารถเดินไปที่ร้านได้ ในเวลาประมาณ 3 นาที เท่านั้น)
- ก๋วยเตี๋ยวบ้านสวน อยู่ห่างจากโครงการเพียง 290 เมตร (คุณแค่เดินไปประมาณ 4 นาที ก็ถึงแล้ว)
- Seab Inter restaurant นั้นอยู่ห่างไปประมาณ 570 เมตร (เดินไปที่ร้านใช้เวลาประมาณ 7 นาที)
โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลนาจอมเทียน เป็นสถานพยาบาลที่ใกล้ที่สุด ซึ่งห่างจากโครงการไป 3.0 กม. (ซึ่งหากขับรถไป ก็จะใช้เวลาประมาณ 5 นาที)
หากจะมองหาสถานศึกษาหรือแหล่งเรียนรู้ใกล้ๆกับโครงการ นี่คือสถานที่ที่เราแนะนำ
- พัทยา อยู่ห่างไปเพียง 390 เมตรเท่านั้น (เดินไปแค่ 5 นาที เท่านั้นเอง)
- Ban Hin Wong School อยู่ห่างแค่ 3.3 กม. (หากจะขับรถไป ก็ประมาณ 4 นาที)
- กศน.ตำบลนาจอมเทียน อยู่ห่างไปประมาณ 1.7 กม. (สามารถขับรถไปโดยประมาณ 3 นาที)
U-Tapao–Rayong–Pattaya International Airport นั้นอยู่ห่างจากโครงการ 24.8 กม. ซึ่งหากขับรถไปจะใช้เวลาโดยประมาณ 29 นาที หรือหากจะเดินทางด้วยแท๊กซี่ ก็ขึ้นอยู่กับการจราจร ณ ช่วงเวลานั้นๆ