- ปล่อยเช่า คลิก!
- สมัครสมาชิก / เข้าสู่ระบบ
-
ภาษาไทย- th
-
THB - ฿
- ซื้อ
- ประเภทอสังหาฯใน กรุงเทพมหานคร
- กรุงเทพมหานคร
- ดูประกาศล่าสุด
- ซื้อบ้านกับ BPP ดีอย่างไร?
- เช่า
- ขาย
- โครงการทั้งหมด
โครงการ เมอเวนพิค เรสซิเดนซ์ เอกมัย เป็นโครงการประเภท คอนโด / อพาร์ทเม้นท์ ตั้งอยู่ในทำเลพื้นที่ คลองตันเหนือ, กรุงเทพมหานคร และได้สร้างเสร็จแล้วเมื่อ ม.ค. 2556 โดยมีทั้งหมด 29 ชั้น รวมทั้งสิ้น 24 ยูนิต ซึ่งเป็นโครงการคุณภาพโดย Nusasiri และเป็นบริษัทเดียวกันที่ได้พัฒนาโครงการ Nusa My Ozone Khao Yai (ณุศา มายโอโซน เขาใหญ่), Nusa Chivani (ณุศา ชีวานี่) และ Parc Exo Condominium (พาร์ค เอ็กซ์โซ คอนโดมิเนียม). อีกด้วย
ที่อยู่อาศัยพร้อมเฟอร์นิเจอร์ครบครันในใจกลางกรุงเทพฯ
เมอเวนพิค เรสซิเดนซ์ เอกมัย ได้รับการออกแบบเพื่อรองรับทั้งนักเดินทางเพื่อธุรกิจและการพักผ่อน โดยตั้งอยู่อย่างเหมาะเจาะในกรุงเทพ ผู้เข้าพักสามารถเพลิดเพลินไปกับการเข้าถึงทุกสถานที่ในเมืองได้อย่างง่ายดาย รวมถึงสถานที่ท่องเที่ยวที่ต้องไปเยี่ยมชม
ด้วยบริการที่เหนือกว่าและสิ่งอำนวยความสะดวกที่หลากหลาย เรามุ่งมั่นที่จะทำให้การเข้าพักของคุณสะดวกสบายที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ สิ่งอำนวยความสะดวกที่โดดเด่นของที่พัก ได้แก่ Wi-Fi ฟรี, บริการทำความสะอาดรายวัน, แผนกต้อนรับ 24 ชั่วโมง, สิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับผู้พิการ และเช็คอิน/เช็คเอาต์ด่วน
บรรยากาศของเมืองสะท้อนให้เห็นในห้องพักทั้ง 158 ห้องของเรา ตู้เสื้อผ้า ผ้าเช็ดตัว รองเท้าแตะ ห้องนั่งเล่นแยกเป็นสัดส่วน ทีวีจอแอลซีดี/จอพลาสมาเป็นเพียงสิ่งอำนวยความสะดวกบางส่วนที่สามารถพบได้ทั่วทั้งที่อยู่อาศัยของเรา
รู้จักกันดีที่สุดสำหรับ:
ห่างจากร้านอาหารและพื้นที่ค้าปลีกที่เป็นที่ต้องการเพียงไม่กี่นาที
รถไปส่งฟรีที่สถานีรถไฟฟ้า BTS ตามตารางออกเดินทาง
ฟิตเนสมองเห็นสระว่ายน้ำ
เดินทางสะดวกสู่ย่านศูนย์กลางธุรกิจ
การบริการและการต้อนรับแบบไทยในตำนาน
ลองเช็คดูก่อนว่าบ้านของคุณนั้นควรมีราคาอยู๋ที่ประมาณเท่าไหร่ ในทำเลนี้?
Nusasiri Public Company Limited (“the Company”) (Previously, Angpao Assets Public Company Limited and Thai Durable Textile Public Company Limited was established on August 19, 1960 to operate a textile business. On August 10, 1992, the Company’s shares were listed on the Stock Exchange of Thailand (SET), and in 1994, the Company was converted to a public limited company.
During 1993 – 1997, the Company had incurred losses. As a result, in 1997, the Company was notified by SET that it had fallen into criteria of the securities that may be delisted from SET, and SET had ordered the Company’s shares, which was traded on the Textile sector, to be transferred to the companies under rehabilitation plans (REHABCO). Later, the Company had proceeded with its plan for exclusion from being delisted. Therefore, in April 2003, SET had allowed the Company’s shares to be traded again under REHABCO sector.
The free trade agreement and the removal of textile quota allocation during early 2005 caused an intense competition both within the country and abroad. As a result, the price of textile products had fallen. The company incurred losses and faced liquidity problems, and SET had suspended the trading of the Company’s shares until the Company can meet the criteria for exclusion from being delisted and transferring back to normal sector. In 2006, SET had removed REHABCO sector and transferred the Company to be under the Non-Performing Group.
In 2006, the Company ceased to operate its textile business. In February 2006, it terminated the operations of yarn spinning and weaving, and in June 2006, it withheld all production activities of its garment department. On December 22, 2006, SET had notified an additional condition stipulating that the Company had fallen into criteria of the securities that may be delisted as the Company had ceased to operate almost all of its business and its operating assets had significantly fallen.
After terminating the textile business, the Company has established a new business, a property development business. The Company has begun operating its property business starting from being a property sales agent. Afterwards, in July 2009, the Company’s shareholders’ meeting had approved an acquisition of assets from Nusasiri Grand Public Company Limited and KMP Property Company Limited (“Nusasiri Group”) to be its operating assets, consisting of five projects with an amount of not exceeding Baht 2,490.00 million baht to be its operating assets and enable the performance of the Company. The Company owns the trademark “Nusasiri” this is the original famous brand and well-know among the customers who is a better position. The Company has permission to use the service sign “Baan Krisana” in the Baan Krissan Rama 5 Project which is quite well-know. The assets acquired comprise of;
The Plaza zone of the condominium unit of Nusasiri Grand Condo Project (Sukhumvit-Ekamai)
The land and construction of Nusasiri Sathorn-Wongwaen Project.
The land and construction of Nusasiri Sathorn-Pinklao Project.
The land and construction of Nusasiri Rama 2 Project.
The Krisana Rama 5-Kanchanapisek Project.
Cash payment is not more than Baht 1,500 million and paid in shares to Nusasiri Group is not exceeding 3,304.38 million shares at the price of Baht 0.35 per share, worth no more than Baht 1,156.53 million, and change its name to Angpao Assets Public Company Limited. The company has received approval from the Stock Exchange back into trading in the real estate category. On September 9, 2014 And launched the project on behalf of company 2 project as follows;
Up Ekamai Condominium Project , Ekamai Road.
Parc Exo Condominium , Kaset-Navamintr Road
In 2013 the company has launched a The horizontal project 1 project, The horizontal townhouse, Narathon Suwintawong Road
In 2014 the Company has to development of real estate projects the provinces the number of two projects. The focus of investment to the province. The potential and growth of residential demand continuously as follows;
Single-House, Nusa Chivani Pattaya, Chonburi province.
Single-House and Land allocation, My Ozone, Nakhon Ratchasima province Managed by a subsidiary of the company.
At present the company's main revenue comes from the development of real estate projects for sale from the project at Developed as follows; Project Chivani Pattaya, Nusasiri Rama2, Project Krissana Rama5, Project Narathon, Project Parc Exo and Project My Ozone.
หากคนไทยแต่งงานกับชาวต่างชาติ แล้วต้องการจะซื้อบ้านหรือที่ดิน แล้วทำการโอนกรรมสิทธิ์ในชื่อของคู่สมรสชาวต่างชาตินั้น ตามกฎหมายไทยจะไม่ให้ชาวต่างชาติ ถือครองที่ดินในประเทศไทยได้ ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้
แต่หากมีความยินยอมระหว่างกันก็สามารถโอนเป็นชื่อคู่สมรสคนไทยได้ตามปรกติ โดยจะมีความซับซ้อนขึ้นอีกเล็กน้อย แบ่งเป็นกรณี
1. "คู่สมรสชาวต่างชาติเตินทางไปที่กรมที่ดินด้วยไม่ได้" จะไม่สามารถใช้เอกสารมอบอำนาจแบบคนไทยได้ แต่จะต้องขอบันทึกถ้อยคำรับรองว่าเงินทั้งหมดที่นำมาซื้อบ้านหรือที่ดินนี้ เป็นทรัพย์สินส่วนตัว ไม่ใช่สินสมรส และให้หน่วยงาน เช่น สถานเอกอัครราชทูต สถานกงสุล หรือโนตารีพับลิค ทำการรับรองว่าทั้งคู่เป็นสามี ภรรยาจริง และให้คู่สมรสคนไทยนำเอกสารรับรอง (เอกสารตัวจริง) ไปดำเนินการต่อที่กรมที่ดินเองต่อไป
2. "หากคู่สมรสชาวต่างชาติสามารถเดินทางไปพร้อมกับคนไทยที่เป็นคู่สมรสได้" ก็แค่ยินดีเซ็นรับรองว่าบ้านหรือที่ดินแปลงที่กำลังจะซื้อกันนี้ จะตกเป็นกรรมสิทธิ์ของคู่สมรสคนไทยเพียงฝ่ายเดียวเท่านั้น
หากคุณได้เข้าเยี่ยมชมโครงการ เมอเวนพิค เรสซิเดนซ์ เอกมัย และตัดสินใจเลือกยูนิตที่ต้องการแล้ว คุณต้องเตรียมตัวกับเรื่องต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
- โอนเงินมัดจำการจอง
- ทำสัญญาตกลงซื้อขาย (อาจจะมีการชำระเงินเพิ่มบางส่วน)
- ผ่อนชำระเงินดาวน์ตามงวดที่ตกลง (ถ้ามี)
- ทำเรื่องเอกสารเพื่อขอกู้ยืมกับธนาคาร
- กำหนดการตรวจรับบ้าน
- หากพบเจอปัญหาการตรวจรับ ให้ลงรายการและแจ้งโครงการให้แก้ไข
- ตรวจรับบ้านรอบสุดท้าย
- กำหนดการโอนกรรมสิทธิ์ และ เซ็นสัญญากู้ยืมกับธนาคาร
ในสภาพเศรษฐกิจปัจจุบัน ทำให้หลายคนมองหาการซื้อคอนโดมือสอง เพื่อเป็นที่อยู่อาศัยกันมากขึ้น เนื่องด้วยเหตุปัจจัยหลายอย่าง ดังนี้
1. คอนโดมือสองนั้น มีราคาที่ถูกกว่าคอนโดมือหนึ่งในยุคนี้อย่างเห็นได้ชัด หากเทียบกับขนาดห้อง และทำเลที่ใกล้เคียงกัน
2. ได้เห็นบรรยากาศโดยรอบทั้งภายใน และภายนอกโครงการได้อย่างชัดเจน ทำให้ประเมินการใช้ชีวิต หากต้องอยู่ที่นี่ได้ง่ายขึ้น
3. มีโอกาสได้ทำเลที่ตั้งที่ดีกว่าคอนโดมือหนึ่ง เพราะนับวันพื้นที่ในทำเลดีๆ หาได้ยากยิ่งนักและมีราคาสูงมาก แต่ต้องยอมรับกับสภาพและอายุการก่อสร้างของคอนโดมือสองให้ได้ด้วยเช่นกัน
4. ส่วนใหญ่แล้วคอนโดมือสองจะถูกตกแต่ง หรือ Built In เฟอร์นิเจอร์อย่างครบถ้วนแล้ว จึงสามารถย้ายเข้าอยู่ได้ทันที
5. วัสดุที่ใช้ในการก่อสร้างคอนโดมือสองหลายโครงการมีคุณภาพดีกว่า เนื่องจากราคาของวัสดุในช่วงที่ก่อสร้างอาจจะไม่ได้สูงเท่ากับในยุคนี้ ทำให้ผู้ประกอบการเลือกใช้วัสดุคุณภาพสูง
โครงการ เมอเวนพิค เรสซิเดนซ์ เอกมัย อยู่ห่างจาก 7-Eleven (Store 01635) เพียงแค่ 290 เมตรเท่านั้น ซึ่งใช้เวลาเดินไปเพียง 4 mins
และยังมีร้านต่างๆ ที่อยู่ใกล้กับโครงการ เมอเวนพิค เรสซิเดนซ์ เอกมัย ซึ่ง 3 ร้านที่ใกล้ที่สุด คือ
- Babyharu (กระเป๋าหนังแท้เกรดพรีเมี่ยม) อยู่ห่างไปเพียง 270 เมตร (เดินแค่ประมาณ 4 mins)
- 马先生店铺 อยู่ห่างแค่ 270 เมตรเท่านั้น (ใช้เวลาเดินประมาณ 3 mins)
- ตึกชาญอิทสระ ซึ่งอยู่ห่างไปแค่ 2.2 km (สามารถขับรถไปแค่ประมาณ 8 mins)
ร้านอาหารที่ใกล้กับโครงการ เมอเวนพิค เรสซิเดนซ์ เอกมัย นั้นมีให้เลือกมากมาย เราขอเสนอร้านที่ใกล้ที่สุด ดังนี้
- ขาหมูเก่งกะสิงห์ นั้นอยู่ใกล้กับโครงการเพียง 60 เมตร (ซึ่งคุณสามารถเดินไปที่ร้านได้ ในเวลาประมาณ 1 min เท่านั้น)
- Suchart Chicken Rice อยู่ห่างจากโครงการเพียง 70 เมตร (คุณแค่เดินไปประมาณ 1 min ก็ถึงแล้ว)
- ก๋วยเตี๋ยว ณ ตันกันภัย นั้นอยู่ห่างไปประมาณ 90 เมตร (เดินไปที่ร้านใช้เวลาประมาณ 1 min)
บ้าน คุณหมอปรีดา จินดา เป็นสถานพยาบาลที่ใกล้ที่สุด ซึ่งห่างจากโครงการไป 650 เมตร (ซึ่งหากเดินไป ก็จะใช้เวลาประมาณ 8 mins)
หากจะมองหาสถานศึกษาหรือแหล่งเรียนรู้ใกล้ๆกับโครงการ นี่คือสถานที่ที่เราแนะนำ
- Macaronbkk อยู่ห่างไปเพียง 80 เมตรเท่านั้น (เดินไปแค่ 1 min เท่านั้นเอง)
- EBO Voice Studio อยู่ห่างแค่ 120 เมตรเท่านั้น (หากจะเดินไป ก็ใช้เวลาประมาณ 1 min)
- BFITS | Bright Future International Training and Services (Thailand) อยู่ห่างไปประมาณ 150 เมตรเท่านั้นเอง (สามารถเดินเพียง 2 mins ก็ถึง)
Suvarnabhumi Airport นั้นอยู่ห่างจากโครงการ 25.6 km ซึ่งหากขับรถไปจะใช้เวลาโดยประมาณ 31 mins หรือหากจะเดินทางด้วยแท๊กซี่ ก็ขึ้นอยู่กับการจราจร ณ ช่วงเวลานั้นๆ