- ขายบ้านคุณตอนนี้!
- สมัครสมาชิก / เข้าสู่ระบบ
-
ภาษาไทย- th
-
THB - ฿
- ซื้อ
- ประเภทอสังหาฯใน กรุงเทพมหานคร
- กรุงเทพมหานคร
- ดูประกาศล่าสุด
- ซื้อบ้านกับ BPP ดีอย่างไร?
- เช่า
- ขาย
- โครงการทั้งหมด
โครงการ อะไลฟ์ เอกมัย-รามอินทรา เป็นโครงการประเภท บ้านเดี่ยว / วิลล่า ตั้งอยู่ในทำเลพื้นที่ คลองเจ้าคุณสิงห์, กรุงเทพมหานคร และได้สร้างเสร็จแล้วเมื่อ ธ.ค. 2564 โดยมีทั้งหมด 6 ยูนิต ซึ่งเป็นโครงการคุณภาพโดย บริษัท แน๊ปส์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด
อะไลฟ์ เอกมัย-รามอินทรา Luxury Home Office โซนเอกมัย-รามอินทรา กับโครงการสุด Exclusive เพียง 6 Unit ลาดพร้าว87 ที่รังสรรค์ "โฮม ออฟฟิศ" เพื่อนักธุรกิจรุ่นใหม่ ที่ต้องการผสมผสานการอยู่อาศัยและทำธุรกิจในจุดเดียวกัน มาพร้อมกับดีไซน์โดดเด่นสไตล์ Modern Tropical อย่างลงตัว
ห้อมล้อมไปด้วยห้างสรรพสินค้าชั้นนำ เชื่อมต่อถนนสายหลัก ทางด่วน และรถไฟฟ้าสู่ใจกลางเมือง ที่สุดของทำเลเอกมัย-รามอินทรา เพียง 5 นาที สู่ CDC ให้คุณได้ใช้ชีวิตอย่างเหนือระดับ พร้อมฟังก์ชั่น 250 ตร.ม. 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ ตอบรับไลฟ์สไตล์คนเมืองอย่างแท้จริง
ลองเช็คดูก่อนว่าบ้านของคุณนั้นควรมีราคาอยู๋ที่ประมาณเท่าไหร่ ในทำเลนี้?
หากคนไทยแต่งงานกับชาวต่างชาติ แล้วต้องการจะซื้อบ้านหรือที่ดิน แล้วทำการโอนกรรมสิทธิ์ในชื่อของคู่สมรสชาวต่างชาตินั้น ตามกฎหมายไทยจะไม่ให้ชาวต่างชาติ ถือครองที่ดินในประเทศไทยได้ ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้
แต่หากมีความยินยอมระหว่างกันก็สามารถโอนเป็นชื่อคู่สมรสคนไทยได้ตามปรกติ โดยจะมีความซับซ้อนขึ้นอีกเล็กน้อย แบ่งเป็นกรณี
1. "คู่สมรสชาวต่างชาติเตินทางไปที่กรมที่ดินด้วยไม่ได้" จะไม่สามารถใช้เอกสารมอบอำนาจแบบคนไทยได้ แต่จะต้องขอบันทึกถ้อยคำรับรองว่าเงินทั้งหมดที่นำมาซื้อบ้านหรือที่ดินนี้ เป็นทรัพย์สินส่วนตัว ไม่ใช่สินสมรส และให้หน่วยงาน เช่น สถานเอกอัครราชทูต สถานกงสุล หรือโนตารีพับลิค ทำการรับรองว่าทั้งคู่เป็นสามี ภรรยาจริง และให้คู่สมรสคนไทยนำเอกสารรับรอง (เอกสารตัวจริง) ไปดำเนินการต่อที่กรมที่ดินเองต่อไป
2. "หากคู่สมรสชาวต่างชาติสามารถเดินทางไปพร้อมกับคนไทยที่เป็นคู่สมรสได้" ก็แค่ยินดีเซ็นรับรองว่าบ้านหรือที่ดินแปลงที่กำลังจะซื้อกันนี้ จะตกเป็นกรรมสิทธิ์ของคู่สมรสคนไทยเพียงฝ่ายเดียวเท่านั้น
หากคุณได้เข้าเยี่ยมชมโครงการ อะไลฟ์ เอกมัย-รามอินทรา และตัดสินใจเลือกยูนิตที่ต้องการแล้ว คุณต้องเตรียมตัวกับเรื่องต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
- โอนเงินมัดจำการจอง
- ทำสัญญาตกลงซื้อขาย (อาจจะมีการชำระเงินเพิ่มบางส่วน)
- ผ่อนชำระเงินดาวน์ตามงวดที่ตกลง (ถ้ามี)
- ทำเรื่องเอกสารเพื่อขอกู้ยืมกับธนาคาร
- กำหนดการตรวจรับบ้าน
- หากพบเจอปัญหาการตรวจรับ ให้ลงรายการและแจ้งโครงการให้แก้ไข
- ตรวจรับบ้านรอบสุดท้าย
- กำหนดการโอนกรรมสิทธิ์ และ เซ็นสัญญากู้ยืมกับธนาคาร
หากอยากกู้ซื้อบ้าน หรือ คอนโด ให้ผ่านการพิจารณาจากธนาคารง่ายๆ ควรวางแผนให้กับตัวเองดังนี้
1. พยายามเคลียร์หนี้สินให้หมดก่อน
- เพราะธนาคารจะนำตัวเลขหนี้สินเหล่านั้นมาเป็นส่วนพิจารณาด้วย คุณจึงควรจัดการหนี้สินเหล่านั้นให้หมดเรียบร้อยก่อน หรือ ทำให้จำนวนงวดผ่อนเหลือน้อยที่สุดก่อน จะเป็นการง่ายต่อการพิจารณาสินเชื่อ
2. พยายามทำตัวเลขเดินบัญชี Statement ให้ดูดี
- สิ่งที่ควรดำเนินการควบคู่ไปกับการลดตัวเลขหนี้สิน คือการมีตัวเลขในบัญชีที่ดูดีไปด้วย หรือที่เรียกกันว่า การเดินรายการบัญชี (เดิน Statement) เพราะเป็นส่วนที่ธนาคารจะนำมาพิจารณาย้อนหลัง อาจจะดูตัวเลขย้อนหลัง 6-12 เดือน
3. มีเงินดาวน์บ้านเอาไว้สักก้อน
- หากคุณเริ่มมองหาบ้านสักหลังไว้แล้ว คุณควรจะมีเงินดาวน์ไว้ช่วยทำให้ทางธนาคารสามารถปล่อยสินเชื่อส่วนที่เหลือให้ได้สูงขึ้น และ ง่ายขึ้น อาจจะสัก 5-20% ขึ้นอยู่กับโครงการ และ สายอาชีพและแหล่งรายได้ของผู้กู้เองด้วย
ในยุคปัจจุบัน พบว่ามีผู้ที่สนใจซื้อบ้านมือสองเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนที่มากขึ้น เพราะด้วยหลายๆเหตุผลที่ต้องการ ทั้งยังอยากใกล้ชิดกับครอบครัว ใกล้สถานศึกษา โรงพยาบาล และอยากใช้ชีวิตสะดวกมากขึ้น ซึ่งการจะให้ได้บ้านในลักษณะนี้ จำเป็นต้องเพิ่มทางเลือกให้มากขึ้น ด้วยการมองไปที่บ้านมือสอง ซึ่งข้อดีของบ้านมือสองมีอะไรบ้าง ลองพิจารณาจาก 5 เหตุผลนี้
1. ราคาที่เข้าถึงได้
- บ้านมือสองมักมีราคาที่เข้าถึงได้มากกว่าบ้านใหม่ในทำเลเดียวกัน และยังสามารถต่อรองราคาได้สูงอีกด้วย
2. ได้เห็นปัญหาของบ้าน
- ท่านจะสามารถรู้ถึงปัญหาที่อาจเกิดขึ้น หรือ กำลังเกิดขึ้นอยู่ในขณะนั้น เช่น ท่อตัน, หลังคารั่ว พื้นหรือกำแพงทรุด ซึ่งนำไปพิจาณาว่าจะซ่อม หรือ มองหลังอื่นแทน
3. วัสดุคุณภาพ
- บ้านมือสองที่มีอายุมากขึ้น มักมีคุณภาพของวัสดุที่ดีกว่าบ้านมือ 1 เช่น เสา-คานที่แข็งแรงมากกว่า เพราะพิสูจน์จากการผ่านมาหลายฝน หลายหนาวมาแล้ว
4. เข้าอยู่ได้ทันที
- บ้านมือสองมักพร้อมเข้าอยู่ทันทีหลังการซื้อ ไม่ต้องรอให้การก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์ อีกทั้งยังอาจจะไม่ต้องซื้อของเข้าบ้านเพิ่มเติม จากบ้านที่ขายพร้อมเฟอร์นิเจอร์
5. การสำรวจสภาพแวดล้อม
- ท่านจะมีโอกาสสำรวจและเรียนรู้เกี่ยวกับสภาพแวดล้อมและชุมชนโดยรอบก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ ทั้งเรื่องของเพื่อนบ้าน, สิ่งอำนวยความสะดวก, และปัจจัยอื่น ๆ ที่มีผลต่อคุณภาพชีวิตของท่าน
โครงการ อะไลฟ์ เอกมัย-รามอินทรา อยู่ห่างจาก 7-Eleven สาขา KL แมนชั่น (03633) เพียงแค่ 270 เมตรเท่านั้น ซึ่งใช้เวลาเดินไปเพียง 3 นาที
และยังมีร้านต่างๆ ที่อยู่ใกล้กับโครงการ อะไลฟ์ เอกมัย-รามอินทรา ซึ่ง 3 ร้านที่ใกล้ที่สุด คือ
- Privilege International Co.,LTD. อยู่ห่างประมาณ 4.9 กม. (ขับรถไปประมาณ 12 นาที)
- Somchai lottery center อยู่ห่างแค่ 580 เมตรเท่านั้น (ใช้เวลาเดินประมาณ 7 นาที)
- Dolly and Salmon ซึ่งอยู่ห่างไปแค่ 4.8 กม. (สามารถขับรถไปแค่ประมาณ 12 นาที)
ร้านอาหารที่ใกล้กับโครงการ อะไลฟ์ เอกมัย-รามอินทรา นั้นมีให้เลือกมากมาย เราขอเสนอร้านที่ใกล้ที่สุด ดังนี้
- Bread Truck ข้าวจี่-ปาเต๊ะ นั้นอยู่ใกล้กับโครงการเพียง 350 เมตร (ซึ่งคุณสามารถเดินไปที่ร้านได้ ในเวลาประมาณ 4 นาที เท่านั้น)
- Day by Day เดย์บายเดย์ อยู่ห่างไปประมาณ5.2 กม. (คุณแค่ขับรถประมาณ 13 นาที ก็ถึงร้านแล้ว)
- เจ้เล็กข้าวแกง87 นั้นอยู่ห่างไปประมาณ 160 เมตร (เดินไปที่ร้านใช้เวลาประมาณ 2 นาที)
ถุงพลาสติกเกรดA เป็นสถานพยาบาลที่ใกล้ที่สุด ซึ่งห่างจากโครงการไป 4.5 กม. (ซึ่งหากขับรถไป ก็จะใช้เวลาประมาณ 11 นาที)
หากจะมองหาสถานศึกษาหรือแหล่งเรียนรู้ใกล้ๆกับโครงการ นี่คือสถานที่ที่เราแนะนำ
- Million Hall อยู่ห่างไปเพียง 320 เมตรเท่านั้น (เดินไปแค่ 4 นาที เท่านั้นเอง)
- สถาบันมิลเลียนเฮ้าส์ อยู่ห่างแค่ 320 เมตรเท่านั้น (หากจะเดินไป ก็ใช้เวลาประมาณ 4 นาที)
- NineHua IT Solutions อยู่ห่างไปประมาณ 400 เมตรเท่านั้นเอง (สามารถเดินเพียง 5 นาที ก็ถึง)
Suvarnabhumi International Airport (BKK) นั้นอยู่ห่างจากโครงการ 31.0 กม. ซึ่งหากขับรถไปจะใช้เวลาโดยประมาณ 33 นาที หรือหากจะเดินทางด้วยแท๊กซี่ ก็ขึ้นอยู่กับการจราจร ณ ช่วงเวลานั้นๆ