- ปล่อยเช่า คลิก!
- สมัครสมาชิก / เข้าสู่ระบบ
-
ภาษาไทย- th
-
THB - ฿
- ซื้อ
- ประเภทอสังหาฯใน กรุงเทพมหานคร
- กรุงเทพมหานคร
- ดูประกาศล่าสุด
- ซื้อบ้านกับ BPP ดีอย่างไร?
- เช่า
- ขาย
- โครงการทั้งหมด
อสังหาริมทรัพย์นี้เป็น ทาวน์เฮ้าส์ สำหรับเช่า ขนาด 3 ห้องนอน มีพื้นที่ใช้สอย 270 ตรม. ซึ่งยูนิตนี้อยู่ในโครงการ บ้านกลางเมือง ลาดพร้าว - โยธินพัฒนา บนทำเลของ ลาดพร้าว, กรุงเทพมหานคร และสร้างเสร็จแล้วเมื่อ ม.ค. 2547 ซึ่งคุณสามารถเช่า ทาวน์เฮ้าส์ นี้ได้ด้วยราคาค่าเช่า ฿38,000 ต่อเดือน
ทาวน์โฮม โฮมออฟฟิศ ขนาดใหญ่พิเศษ หน้ากว้างถึง 10 เมตร ตั้งอยู่ถนนหลักของหมู่บ้าน ห่างจากถนนเลียบทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ (เอกมัย-รามอินทรา) เพียง 400 เมตร ทำเลดีที่สุดในการทำออฟฟิศและอยู่อาศัย- ขนาดที่ดิน: 31.3 ตร.วา ขนาดพื้นที่ใช้สอย: 198 ตร.ม. หน้าบ้านกว้างพิเศษ 10 ลึก 11.5 เมตร- ที่ตั้งโครงการ: หมู่บ้านกลางเมือง ลาดพร้าว-โยธินพัฒนา ในซอยประดิษฐ์มนูธรรม 19 ตั้งอยู่ระหว่างเซ็นทรัลอีสวิวล์ และคริสตัล ปาร์ค ใกล้ Makro, Lotus's, CDC และ Homepro มีระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชม. เดินทางสะดวกมาก เข้าออกได้หลายช่องทาง เชื่อมต่อซอยลาดพร้าว 71, โชคชัย 4, สตรีวิทยา 2, เสนานิเวศน์, ถนนลาดพร้าว, ถนนประเสริฐมนูกิจ (เกษตร-นวมินทร์) และทางด่วนฉลองรัช- ทำเลบ้าน: ตั้งอยู่ปากซอยหมู่บ้าน บนถนนหลักโครงการ ถนนหน้าบ้านกว้าง 12 เมตร ฝั่งตรงข้าม เป็นรั้วของโครงการ ไม่มีบ้านหันหน้าชนกัน ลมถ่ายเทสะดวก- รายละเอียดบ้าน: บ้าน 3 ชั้นครึ่งพร้อมแอร์ 6 เครื่อง มี 3 ห้องนอน, 4 ห้องน้ำ, 2 ห้องรับแขก (ชั้นล่างและชั้นลอย), 1 ครัวไทย, 1 เคาเตอร์ครัวฝรั่ง, สวนหย่อม/พื้นที่ซักล้างหลังบ้าน 1, โรงรถจอดได้ 2 คัน หน้าบ้านอีก 2 คัน และฝั่งตรงข้ามบ้านเป็นรั้วโครงการจอดได้ตลอดแนว ติดตั้งแทงค์น้ำสำรอง + เครื่องปั้มน้ำแล้ว- จุดเด่น: ที่ตั้งทำเลทองใกล้เมือง บนถนนเลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา และหน้าบ้านกว้างพิเศษถึง 10 เมตร เหมาะทำสำนักงานหรือบ้านอยู่อาศัยสำหรับครอบครัวใหญ่ได้สบาย พื้นที่ในบ้านโล่งโปร่งเนื่องจากเป็นบ้านไล่ระดับ 3 ชั้นครึ่ง เพดานสูงและหน้าต่างรอบด้านบ้าน บ้านอยู่ต้นซอยหมู่บ้าน มีระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชม. บ้านหันหน้าทิศตะวันตกเฉียงใต้ ลมพัดเข้าหน้าบ้านออกหลังบ้าน- ค่าเช่านี้รวมค่าส่วนกลางแล้ว พร้อมบัตรเข้า-ออกหมู่บ้าน 2 ใบ
หากคนไทยแต่งงานกับชาวต่างชาติ แล้วต้องการจะซื้อบ้านหรือที่ดิน แล้วทำการโอนกรรมสิทธิ์ในชื่อของคู่สมรสชาวต่างชาตินั้น ตามกฎหมายไทยจะไม่ให้ชาวต่างชาติ ถือครองที่ดินในประเทศไทยได้ ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้
แต่หากมีความยินยอมระหว่างกันก็สามารถโอนเป็นชื่อคู่สมรสคนไทยได้ตามปรกติ โดยจะมีความซับซ้อนขึ้นอีกเล็กน้อย แบ่งเป็นกรณี
1. "คู่สมรสชาวต่างชาติเตินทางไปที่กรมที่ดินด้วยไม่ได้" จะไม่สามารถใช้เอกสารมอบอำนาจแบบคนไทยได้ แต่จะต้องขอบันทึกถ้อยคำรับรองว่าเงินทั้งหมดที่นำมาซื้อบ้านหรือที่ดินนี้ เป็นทรัพย์สินส่วนตัว ไม่ใช่สินสมรส และให้หน่วยงาน เช่น สถานเอกอัครราชทูต สถานกงสุล หรือโนตารีพับลิค ทำการรับรองว่าทั้งคู่เป็นสามี ภรรยาจริง และให้คู่สมรสคนไทยนำเอกสารรับรอง (เอกสารตัวจริง) ไปดำเนินการต่อที่กรมที่ดินเองต่อไป
2. "หากคู่สมรสชาวต่างชาติสามารถเดินทางไปพร้อมกับคนไทยที่เป็นคู่สมรสได้" ก็แค่ยินดีเซ็นรับรองว่าบ้านหรือที่ดินแปลงที่กำลังจะซื้อกันนี้ จะตกเป็นกรรมสิทธิ์ของคู่สมรสคนไทยเพียงฝ่ายเดียวเท่านั้น
หากคุณได้เข้าเยี่ยมชมโครงการ บ้านกลางเมือง ลาดพร้าว - โยธินพัฒนา และตัดสินใจเลือกยูนิตที่ต้องการแล้ว คุณต้องเตรียมตัวกับเรื่องต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
- โอนเงินมัดจำการจอง
- ทำสัญญาตกลงซื้อขาย (อาจจะมีการชำระเงินเพิ่มบางส่วน)
- ผ่อนชำระเงินดาวน์ตามงวดที่ตกลง (ถ้ามี)
- ทำเรื่องเอกสารเพื่อขอกู้ยืมกับธนาคาร
- กำหนดการตรวจรับบ้าน
- หากพบเจอปัญหาการตรวจรับ ให้ลงรายการและแจ้งโครงการให้แก้ไข
- ตรวจรับบ้านรอบสุดท้าย
- กำหนดการโอนกรรมสิทธิ์ และ เซ็นสัญญากู้ยืมกับธนาคาร
หากอยากกู้ซื้อบ้าน หรือ คอนโด ให้ผ่านการพิจารณาจากธนาคารง่ายๆ ควรวางแผนให้กับตัวเองดังนี้
1. พยายามเคลียร์หนี้สินให้หมดก่อน
- เพราะธนาคารจะนำตัวเลขหนี้สินเหล่านั้นมาเป็นส่วนพิจารณาด้วย คุณจึงควรจัดการหนี้สินเหล่านั้นให้หมดเรียบร้อยก่อน หรือ ทำให้จำนวนงวดผ่อนเหลือน้อยที่สุดก่อน จะเป็นการง่ายต่อการพิจารณาสินเชื่อ
2. พยายามทำตัวเลขเดินบัญชี Statement ให้ดูดี
- สิ่งที่ควรดำเนินการควบคู่ไปกับการลดตัวเลขหนี้สิน คือการมีตัวเลขในบัญชีที่ดูดีไปด้วย หรือที่เรียกกันว่า การเดินรายการบัญชี (เดิน Statement) เพราะเป็นส่วนที่ธนาคารจะนำมาพิจารณาย้อนหลัง อาจจะดูตัวเลขย้อนหลัง 6-12 เดือน
3. มีเงินดาวน์บ้านเอาไว้สักก้อน
- หากคุณเริ่มมองหาบ้านสักหลังไว้แล้ว คุณควรจะมีเงินดาวน์ไว้ช่วยทำให้ทางธนาคารสามารถปล่อยสินเชื่อส่วนที่เหลือให้ได้สูงขึ้น และ ง่ายขึ้น อาจจะสัก 5-20% ขึ้นอยู่กับโครงการ และ สายอาชีพและแหล่งรายได้ของผู้กู้เองด้วย
ในยุคปัจจุบัน พบว่ามีผู้ที่สนใจซื้อบ้านมือสองเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนที่มากขึ้น เพราะด้วยหลายๆเหตุผลที่ต้องการ ทั้งยังอยากใกล้ชิดกับครอบครัว ใกล้สถานศึกษา โรงพยาบาล และอยากใช้ชีวิตสะดวกมากขึ้น ซึ่งการจะให้ได้บ้านในลักษณะนี้ จำเป็นต้องเพิ่มทางเลือกให้มากขึ้น ด้วยการมองไปที่บ้านมือสอง ซึ่งข้อดีของบ้านมือสองมีอะไรบ้าง ลองพิจารณาจาก 5 เหตุผลนี้
1. ราคาที่เข้าถึงได้
- บ้านมือสองมักมีราคาที่เข้าถึงได้มากกว่าบ้านใหม่ในทำเลเดียวกัน และยังสามารถต่อรองราคาได้สูงอีกด้วย
2. ได้เห็นปัญหาของบ้าน
- ท่านจะสามารถรู้ถึงปัญหาที่อาจเกิดขึ้น หรือ กำลังเกิดขึ้นอยู่ในขณะนั้น เช่น ท่อตัน, หลังคารั่ว พื้นหรือกำแพงทรุด ซึ่งนำไปพิจาณาว่าจะซ่อม หรือ มองหลังอื่นแทน
3. วัสดุคุณภาพ
- บ้านมือสองที่มีอายุมากขึ้น มักมีคุณภาพของวัสดุที่ดีกว่าบ้านมือ 1 เช่น เสา-คานที่แข็งแรงมากกว่า เพราะพิสูจน์จากการผ่านมาหลายฝน หลายหนาวมาแล้ว
4. เข้าอยู่ได้ทันที
- บ้านมือสองมักพร้อมเข้าอยู่ทันทีหลังการซื้อ ไม่ต้องรอให้การก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์ อีกทั้งยังอาจจะไม่ต้องซื้อของเข้าบ้านเพิ่มเติม จากบ้านที่ขายพร้อมเฟอร์นิเจอร์
5. การสำรวจสภาพแวดล้อม
- ท่านจะมีโอกาสสำรวจและเรียนรู้เกี่ยวกับสภาพแวดล้อมและชุมชนโดยรอบก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ ทั้งเรื่องของเพื่อนบ้าน, สิ่งอำนวยความสะดวก, และปัจจัยอื่น ๆ ที่มีผลต่อคุณภาพชีวิตของท่าน