- ขายบ้านคุณตอนนี้!
- สมัครสมาชิก / เข้าสู่ระบบ
-
ภาษาไทย- th
-
THB - ฿
- ซื้อ
- ประเภทอสังหาฯใน กรุงเทพมหานคร
- กรุงเทพมหานคร
- ดูประกาศล่าสุด
- ซื้อบ้านกับ BPP ดีอย่างไร?
- เช่า
- ขาย
- โครงการทั้งหมด
อสังหาริมทรัพย์นี้เป็น ทาวน์เฮ้าส์ สำหรับขาย ขนาด 5 ห้องนอน มีพื้นที่ใช้สอย 300 ตรม. ซึ่งยูนิตนี้อยู่ในโครงการ วราธร วิลล์ บนทำเลของ สวนหลวง, กรุงเทพมหานคร และสร้างเสร็จแล้วเมื่อ ม.ค. 2556 ซึ่งคุณสามารถซื้อ ทาวน์เฮ้าส์ ได้ที่ราคา ฿6,900,000 (฿23,000/ตรม.) หรือทำสัญญาเช่าระยะยาว ที่ราคาค่าเช่า ฿35,000 ต่อเดือน
เช่าทาวน์เฮ้าส์ 4 ชั้น หมู่บ้านวราธรวิลล์ พัฒนาการ 44 ให้เช่าทาวน์เฮ้าส์ 4 ชั้น เนื้อที่ 31.5 ตร.วา พื้นที่ใช้สอยกว่า 300 ตร.เมตร หมู่บ้านวราธรวิลล์ พัฒนาการ 44 พร้อมอยู่ 5 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 1ห้องนั่งเล่น 1 ห้องอเนกประสงค์ 1 ห้องครัว 1 ห้องซักรีด 1 ห้องเก็บของ 1 ห้องพระพร้อม แอร์ 4 ตัว ทีวี 1 เครื่อง พื้นชั้นล่างปูหินอ่อน ชั้นบนปูไม้ปาร์เก้ ห้องนอนบิ้วท์-อินผนัง และมุมห้องทำงาน พร้อม WALK-IN CLOSET 2 ห้อง ห้องครัวแบบเตาแก๊สไฟฟ้าพร้อมที่ดูดควัน เตาอบ ไมโครเวฟแบบบิ้วอิน ห้องรับแขก พร้อมผนังเก็บของ บิ้วท์-อิน ห้องน้ำอ่างล้างหน้า แบบ his and her พร้อมเครื่องทำน้ำอุ่น 2 เครื่อง ประตูบ้านเปิด - ปิดด้วยรีโมทไร้สาย ระบบรักษาความปลอดภัย รปภ. 24 ชั่วโมง จุดเด่น/สถานที่ใกล้เคียง การเดินทางสะดวก เพียง 3 กิโลเมตรจากทองหล่อ - ใกล้มอเตอร์เวย์, ทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์- ใกล้ห้างสรรพสินค้า THE NINE พระราม 9, ซีคอนสแควร์, พาราไดซ์พาร์ค, , ธัญญะช็อปปิ้งพาร์ค, โลตัสพัฒนาการ, maxvalue- ใกล้โรงพยาบาลสินแพทย์ ,โรงพยาบาลสมิติเวช, โรงพยาบาลรามคำแหง, โรงพยาบาลวิภาราม, โรงพยาบาลเพชรเวช- ใกล้มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ (ABAC), มหาวิทยาลัยรามคำแหง, มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต,โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ, โรงเรียนนานาชาติ (BCIS), โรงเรียนปาณยาพัฒนาการ - ใกล้ เซเว่นฯ ,Lotus go fresh, Amezon cafe ( ภายในรัศมี 500 เมตร) ระบบขนส่งใกล้เคียง รถไฟฟ้าสายสีเหลือง - สถานีพัฒนาการ ( ≈ 1.4 กม.) รถไฟฟ้าสายสีเหลือง - สถานีคลองกลันตัน ( ≈ 1.5 กม.) รถไฟฟ้าสายสีส้ม - สถานีรามคำแหง 12 ( ≈ 3.1 กม.) รถไฟฟ้าเชื่อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ - หัวหมาก ( ≈ 1.9 กม.) ประกัน 2 เดือน ล่วงหน้า 1 เดือน
ชาวต่างชาติสามารถถือครองกรรมสิทธิ์ในตัวอาคารสำหรับทาวน์เฮ้าส์ในชื่อของตัวเองได้ แต่จะไม่สามารถถือครองกรรมสิทธิ์ในที่ดินที่ใช้ปลูกสร้างทาวน์เฮ้าส์ได้
ชาวต่างชาติไม่สามารถถือครองกรรมสิทธิ์ที่ดินในประเทศไทยได้ ดังนั้นจำเป็นต้องถือครองด้วยวิธีการถือสัญญาเช่าระยะยาว 30 ปี หรือว่าการซื้อที่ดินภายในชื่อของบริษัทจดทะเบียนเท่านั้น
หากคนไทยแต่งงานกับชาวต่างชาติ แล้วต้องการจะซื้อบ้านหรือที่ดิน แล้วทำการโอนกรรมสิทธิ์ในชื่อของคู่สมรสชาวต่างชาตินั้น ตามกฎหมายไทยจะไม่ให้ชาวต่างชาติ ถือครองที่ดินในประเทศไทยได้ ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้
แต่หากมีความยินยอมระหว่างกันก็สามารถโอนเป็นชื่อคู่สมรสคนไทยได้ตามปรกติ โดยจะมีความซับซ้อนขึ้นอีกเล็กน้อย แบ่งเป็นกรณี
1. "คู่สมรสชาวต่างชาติเตินทางไปที่กรมที่ดินด้วยไม่ได้" จะไม่สามารถใช้เอกสารมอบอำนาจแบบคนไทยได้ แต่จะต้องขอบันทึกถ้อยคำรับรองว่าเงินทั้งหมดที่นำมาซื้อบ้านหรือที่ดินนี้ เป็นทรัพย์สินส่วนตัว ไม่ใช่สินสมรส และให้หน่วยงาน เช่น สถานเอกอัครราชทูต สถานกงสุล หรือโนตารีพับลิค ทำการรับรองว่าทั้งคู่เป็นสามี ภรรยาจริง และให้คู่สมรสคนไทยนำเอกสารรับรอง (เอกสารตัวจริง) ไปดำเนินการต่อที่กรมที่ดินเองต่อไป
2. "หากคู่สมรสชาวต่างชาติสามารถเดินทางไปพร้อมกับคนไทยที่เป็นคู่สมรสได้" ก็แค่ยินดีเซ็นรับรองว่าบ้านหรือที่ดินแปลงที่กำลังจะซื้อกันนี้ จะตกเป็นกรรมสิทธิ์ของคู่สมรสคนไทยเพียงฝ่ายเดียวเท่านั้น
หากคุณได้เข้าเยี่ยมชมโครงการ วราธร วิลล์ และตัดสินใจเลือกยูนิตที่ต้องการแล้ว คุณต้องเตรียมตัวกับเรื่องต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
- โอนเงินมัดจำการจอง
- ทำสัญญาตกลงซื้อขาย (อาจจะมีการชำระเงินเพิ่มบางส่วน)
- ผ่อนชำระเงินดาวน์ตามงวดที่ตกลง (ถ้ามี)
- ทำเรื่องเอกสารเพื่อขอกู้ยืมกับธนาคาร
- กำหนดการตรวจรับบ้าน
- หากพบเจอปัญหาการตรวจรับ ให้ลงรายการและแจ้งโครงการให้แก้ไข
- ตรวจรับบ้านรอบสุดท้าย
- กำหนดการโอนกรรมสิทธิ์ และ เซ็นสัญญากู้ยืมกับธนาคาร
หากอยากกู้ซื้อบ้าน หรือ คอนโด ให้ผ่านการพิจารณาจากธนาคารง่ายๆ ควรวางแผนให้กับตัวเองดังนี้
1. พยายามเคลียร์หนี้สินให้หมดก่อน
- เพราะธนาคารจะนำตัวเลขหนี้สินเหล่านั้นมาเป็นส่วนพิจารณาด้วย คุณจึงควรจัดการหนี้สินเหล่านั้นให้หมดเรียบร้อยก่อน หรือ ทำให้จำนวนงวดผ่อนเหลือน้อยที่สุดก่อน จะเป็นการง่ายต่อการพิจารณาสินเชื่อ
2. พยายามทำตัวเลขเดินบัญชี Statement ให้ดูดี
- สิ่งที่ควรดำเนินการควบคู่ไปกับการลดตัวเลขหนี้สิน คือการมีตัวเลขในบัญชีที่ดูดีไปด้วย หรือที่เรียกกันว่า การเดินรายการบัญชี (เดิน Statement) เพราะเป็นส่วนที่ธนาคารจะนำมาพิจารณาย้อนหลัง อาจจะดูตัวเลขย้อนหลัง 6-12 เดือน
3. มีเงินดาวน์บ้านเอาไว้สักก้อน
- หากคุณเริ่มมองหาบ้านสักหลังไว้แล้ว คุณควรจะมีเงินดาวน์ไว้ช่วยทำให้ทางธนาคารสามารถปล่อยสินเชื่อส่วนที่เหลือให้ได้สูงขึ้น และ ง่ายขึ้น อาจจะสัก 5-20% ขึ้นอยู่กับโครงการ และ สายอาชีพและแหล่งรายได้ของผู้กู้เองด้วย
ในยุคปัจจุบัน พบว่ามีผู้ที่สนใจซื้อบ้านมือสองเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนที่มากขึ้น เพราะด้วยหลายๆเหตุผลที่ต้องการ ทั้งยังอยากใกล้ชิดกับครอบครัว ใกล้สถานศึกษา โรงพยาบาล และอยากใช้ชีวิตสะดวกมากขึ้น ซึ่งการจะให้ได้บ้านในลักษณะนี้ จำเป็นต้องเพิ่มทางเลือกให้มากขึ้น ด้วยการมองไปที่บ้านมือสอง ซึ่งข้อดีของบ้านมือสองมีอะไรบ้าง ลองพิจารณาจาก 5 เหตุผลนี้
1. ราคาที่เข้าถึงได้
- บ้านมือสองมักมีราคาที่เข้าถึงได้มากกว่าบ้านใหม่ในทำเลเดียวกัน และยังสามารถต่อรองราคาได้สูงอีกด้วย
2. ได้เห็นปัญหาของบ้าน
- ท่านจะสามารถรู้ถึงปัญหาที่อาจเกิดขึ้น หรือ กำลังเกิดขึ้นอยู่ในขณะนั้น เช่น ท่อตัน, หลังคารั่ว พื้นหรือกำแพงทรุด ซึ่งนำไปพิจาณาว่าจะซ่อม หรือ มองหลังอื่นแทน
3. วัสดุคุณภาพ
- บ้านมือสองที่มีอายุมากขึ้น มักมีคุณภาพของวัสดุที่ดีกว่าบ้านมือ 1 เช่น เสา-คานที่แข็งแรงมากกว่า เพราะพิสูจน์จากการผ่านมาหลายฝน หลายหนาวมาแล้ว
4. เข้าอยู่ได้ทันที
- บ้านมือสองมักพร้อมเข้าอยู่ทันทีหลังการซื้อ ไม่ต้องรอให้การก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์ อีกทั้งยังอาจจะไม่ต้องซื้อของเข้าบ้านเพิ่มเติม จากบ้านที่ขายพร้อมเฟอร์นิเจอร์
5. การสำรวจสภาพแวดล้อม
- ท่านจะมีโอกาสสำรวจและเรียนรู้เกี่ยวกับสภาพแวดล้อมและชุมชนโดยรอบก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ ทั้งเรื่องของเพื่อนบ้าน, สิ่งอำนวยความสะดวก, และปัจจัยอื่น ๆ ที่มีผลต่อคุณภาพชีวิตของท่าน