- ขายบ้านคุณตอนนี้!
- สมัครสมาชิก / เข้าสู่ระบบ
-
ภาษาไทย- th
-
THB - ฿
อสังหาริมทรัพย์นี้เป็น ทาวน์เฮ้าส์ สำหรับขาย ขนาด 3 ห้องนอน มีพื้นที่ใช้สอย 139 ตรม. ซึ่งยูนิตนี้อยู่ในโครงการ เดอะริชวิลล์ ราชพฤกษ์-รัตนาธิเบศร์ บนทำเลของ อ้อมเกร็ด, นนทบุรี และสร้างเสร็จแล้วเมื่อ ม.ค. 2563 ซึ่งคุณสามารถซื้อ ทาวน์เฮ้าส์ นี้ได้ที่ราคา ฿2,790,000 (฿20,072/ตรม.)
ทาวน์โฮม 2ชั้น : 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ : 1 ห้องเก็บของ : พื้นที่ใช้สอย 139 ตร.ม. เนื้อที่ 25.14 ตร.วา : บ้านใหม่ มือ1 สร้างเสร็จ พร้อมเข้าอยู่ : หน้ากว้าง 7 ม. จอดรถ 1 คัน : ทิศใต้ มีระเบียงหน้าห้องนอนชั้นบน : หน้าบ้านมีเนื้อที่ให้ใช้สอย : หลังบ้านเทพื้น และฝังเข็มเรียบร้อยพร้อมให้ต่อเติมเป็นครัวนอก ลานซักล้างทันที : ใกล้สวนสาธารณะของโครงการ : ถนนทางเข้าหน้าบ้านกว้าง 8ม. : จองวันนี้รับส่วนลดเงินสดทันที #สิ่งอำนวยความสะดวกในโครงการ# สวนสาธารณะ, สระว่ายน้ำ , กล้องวงจรปิด CCTV , ระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชม. #สถานที่ใกล้เคียง# : แหล่งช้อปปิ้ง : แม็กซ์แวลู ราชพฤกษ์, โฮมโปร ชัยพฤกษ์, Central WestGate, Central รัตนาธิเบศร์, อิเกีย บางใหญ่, Chic Republic, Index Livingmall, โฮมโปร ชัยพฤกษ์, ไทวัสดุ ชัยพฤกษ์, เดอะวอล์ค ราชพฤกษ์, เดอะคริสตัล เอสบี ราชพฤกษ์, ตลาดนกฮูก, ตลาดต้นไม้ ถนนกาญจนาภิเษก : โรงพยาบาล : รพ.เกษมราษฏร์ รัตนาธเบศร์, รพ.พระนั่งเกล้า, สถาบันโรคทรวงอก, รพ.ศรีธัญญา : สถานที่ราชการ : กระทรวงพาณิชย์, กองสลากกินแบ่งรัฐบาล, ศูนย์ราชการจังหวัดนนทบุรี, กระทรวงสาธารณะสุข : โรงเรียน : รร.นนทบุรีวิทยาลัย, รร.นันทนวรวิทย์, มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ, มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนครเหนือ #การเดินทาง# : รถไฟฟ้าMRTสายสีม่วง สถานีบางรักใหญ่ : ถนนราชพฤกษ์-ชัยพฤกษ์ : ถนนรัตนาธิเบศร์ : ถนนกาญจนาภิเษก : ทางด่วนบางปะอิน-แจ้งวัฒนะ #จุดเด่นโครงการ# หน้าบ้านกว้าง, หน้าบ้านมีพื้นที่ให้ใช้สอย, ประตูกระจกสไลต์, ระเบียงหน้าห้องนอนชั้นบน, ติดถนน, เดินทางสะดวก, ใกล้ยูเทริน์ทั้ง2ฝั่ง, เข้าออกหลายทาง, ใกล้รถไฟฟ้าMRTสายสีม่วง สถานีบางรักใหญ่ #ราคาขาย# หลังละ 2,790,000 บาท *กู้ได้เต็ม 100%* ตารางวาละ 115,768 บาท ตารางเมตรละ 20,072 บาท ** ราคาดีในย่านราชพฤกษ์ **
ชาวต่างชาติสามารถถือครองกรรมสิทธิ์ในตัวอาคารสำหรับทาวน์เฮ้าส์ในชื่อของตัวเองได้ แต่จะไม่สามารถถือครองกรรมสิทธิ์ในที่ดินที่ใช้ปลูกสร้างทาวน์เฮ้าส์ได้
ชาวต่างชาติไม่สามารถถือครองกรรมสิทธิ์ที่ดินในประเทศไทยได้ ดังนั้นจำเป็นต้องถือครองด้วยวิธีการถือสัญญาเช่าระยะยาว 30 ปี หรือว่าการซื้อที่ดินภายในชื่อของบริษัทจดทะเบียนเท่านั้น
หากคนไทยแต่งงานกับชาวต่างชาติ แล้วต้องการจะซื้อบ้านหรือที่ดิน แล้วทำการโอนกรรมสิทธิ์ในชื่อของคู่สมรสชาวต่างชาตินั้น ตามกฎหมายไทยจะไม่ให้ชาวต่างชาติ ถือครองที่ดินในประเทศไทยได้ ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้
แต่หากมีความยินยอมระหว่างกันก็สามารถโอนเป็นชื่อคู่สมรสคนไทยได้ตามปรกติ โดยจะมีความซับซ้อนขึ้นอีกเล็กน้อย แบ่งเป็นกรณี
1. "คู่สมรสชาวต่างชาติเตินทางไปที่กรมที่ดินด้วยไม่ได้" จะไม่สามารถใช้เอกสารมอบอำนาจแบบคนไทยได้ แต่จะต้องขอบันทึกถ้อยคำรับรองว่าเงินทั้งหมดที่นำมาซื้อบ้านหรือที่ดินนี้ เป็นทรัพย์สินส่วนตัว ไม่ใช่สินสมรส และให้หน่วยงาน เช่น สถานเอกอัครราชทูต สถานกงสุล หรือโนตารีพับลิค ทำการรับรองว่าทั้งคู่เป็นสามี ภรรยาจริง และให้คู่สมรสคนไทยนำเอกสารรับรอง (เอกสารตัวจริง) ไปดำเนินการต่อที่กรมที่ดินเองต่อไป
2. "หากคู่สมรสชาวต่างชาติสามารถเดินทางไปพร้อมกับคนไทยที่เป็นคู่สมรสได้" ก็แค่ยินดีเซ็นรับรองว่าบ้านหรือที่ดินแปลงที่กำลังจะซื้อกันนี้ จะตกเป็นกรรมสิทธิ์ของคู่สมรสคนไทยเพียงฝ่ายเดียวเท่านั้น
หากคุณได้เข้าเยี่ยมชมโครงการ เดอะริชวิลล์ ราชพฤกษ์-รัตนาธิเบศร์ และตัดสินใจเลือกยูนิตที่ต้องการแล้ว คุณต้องเตรียมตัวกับเรื่องต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
- โอนเงินมัดจำการจอง
- ทำสัญญาตกลงซื้อขาย (อาจจะมีการชำระเงินเพิ่มบางส่วน)
- ผ่อนชำระเงินดาวน์ตามงวดที่ตกลง (ถ้ามี)
- ทำเรื่องเอกสารเพื่อขอกู้ยืมกับธนาคาร
- กำหนดการตรวจรับบ้าน
- หากพบเจอปัญหาการตรวจรับ ให้ลงรายการและแจ้งโครงการให้แก้ไข
- ตรวจรับบ้านรอบสุดท้าย
- กำหนดการโอนกรรมสิทธิ์ และ เซ็นสัญญากู้ยืมกับธนาคาร
หากอยากกู้ซื้อบ้าน หรือ คอนโด ให้ผ่านการพิจารณาจากธนาคารง่ายๆ ควรวางแผนให้กับตัวเองดังนี้
1. พยายามเคลียร์หนี้สินให้หมดก่อน
- เพราะธนาคารจะนำตัวเลขหนี้สินเหล่านั้นมาเป็นส่วนพิจารณาด้วย คุณจึงควรจัดการหนี้สินเหล่านั้นให้หมดเรียบร้อยก่อน หรือ ทำให้จำนวนงวดผ่อนเหลือน้อยที่สุดก่อน จะเป็นการง่ายต่อการพิจารณาสินเชื่อ
2. พยายามทำตัวเลขเดินบัญชี Statement ให้ดูดี
- สิ่งที่ควรดำเนินการควบคู่ไปกับการลดตัวเลขหนี้สิน คือการมีตัวเลขในบัญชีที่ดูดีไปด้วย หรือที่เรียกกันว่า การเดินรายการบัญชี (เดิน Statement) เพราะเป็นส่วนที่ธนาคารจะนำมาพิจารณาย้อนหลัง อาจจะดูตัวเลขย้อนหลัง 6-12 เดือน
3. มีเงินดาวน์บ้านเอาไว้สักก้อน
- หากคุณเริ่มมองหาบ้านสักหลังไว้แล้ว คุณควรจะมีเงินดาวน์ไว้ช่วยทำให้ทางธนาคารสามารถปล่อยสินเชื่อส่วนที่เหลือให้ได้สูงขึ้น และ ง่ายขึ้น อาจจะสัก 5-20% ขึ้นอยู่กับโครงการ และ สายอาชีพและแหล่งรายได้ของผู้กู้เองด้วย
ในยุคปัจจุบัน พบว่ามีผู้ที่สนใจซื้อบ้านมือสองเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนที่มากขึ้น เพราะด้วยหลายๆเหตุผลที่ต้องการ ทั้งยังอยากใกล้ชิดกับครอบครัว ใกล้สถานศึกษา โรงพยาบาล และอยากใช้ชีวิตสะดวกมากขึ้น ซึ่งการจะให้ได้บ้านในลักษณะนี้ จำเป็นต้องเพิ่มทางเลือกให้มากขึ้น ด้วยการมองไปที่บ้านมือสอง ซึ่งข้อดีของบ้านมือสองมีอะไรบ้าง ลองพิจารณาจาก 5 เหตุผลนี้
1. ราคาที่เข้าถึงได้
- บ้านมือสองมักมีราคาที่เข้าถึงได้มากกว่าบ้านใหม่ในทำเลเดียวกัน และยังสามารถต่อรองราคาได้สูงอีกด้วย
2. ได้เห็นปัญหาของบ้าน
- ท่านจะสามารถรู้ถึงปัญหาที่อาจเกิดขึ้น หรือ กำลังเกิดขึ้นอยู่ในขณะนั้น เช่น ท่อตัน, หลังคารั่ว พื้นหรือกำแพงทรุด ซึ่งนำไปพิจาณาว่าจะซ่อม หรือ มองหลังอื่นแทน
3. วัสดุคุณภาพ
- บ้านมือสองที่มีอายุมากขึ้น มักมีคุณภาพของวัสดุที่ดีกว่าบ้านมือ 1 เช่น เสา-คานที่แข็งแรงมากกว่า เพราะพิสูจน์จากการผ่านมาหลายฝน หลายหนาวมาแล้ว
4. เข้าอยู่ได้ทันที
- บ้านมือสองมักพร้อมเข้าอยู่ทันทีหลังการซื้อ ไม่ต้องรอให้การก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์ อีกทั้งยังอาจจะไม่ต้องซื้อของเข้าบ้านเพิ่มเติม จากบ้านที่ขายพร้อมเฟอร์นิเจอร์
5. การสำรวจสภาพแวดล้อม
- ท่านจะมีโอกาสสำรวจและเรียนรู้เกี่ยวกับสภาพแวดล้อมและชุมชนโดยรอบก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ ทั้งเรื่องของเพื่อนบ้าน, สิ่งอำนวยความสะดวก, และปัจจัยอื่น ๆ ที่มีผลต่อคุณภาพชีวิตของท่าน