- ขายบ้านคุณตอนนี้!
- สมัครสมาชิก / เข้าสู่ระบบ
-
ภาษาไทย- th
-
THB - ฿
- ซื้อ
- ประเภทอสังหาฯใน กรุงเทพมหานคร
- กรุงเทพมหานคร
- ดูประกาศล่าสุด
- ซื้อบ้านกับ BPP ดีอย่างไร?
- เช่า
- ขาย
- โครงการทั้งหมด
อสังหาริมทรัพย์นี้เป็น ทาวน์เฮ้าส์ สำหรับขาย ขนาด 3 ห้องนอน มีพื้นที่ใช้สอย 89 ตรม. ซึ่งยูนิตนี้อยู่ในโครงการ บ้านร่มเย็นฯ บางเขน-เทพรักษ์ บนทำเลของ ท่าแร้ง, กรุงเทพมหานคร และสร้างเสร็จแล้วเมื่อ ม.ค. 2566 ซึ่งคุณสามารถซื้อ ทาวน์เฮ้าส์ นี้ได้ที่ราคา ฿2,920,000 (฿32,809/ตรม.)
ทาวน์โฮมใหม่ ใกล้รถไฟฟ้า BTS สายสีเขียว สายหยุด ราคาเริ่มเพียง 2.xx เท่านั้น!! ลงเสาเข็มหน้าหลัง ก่ออิฐฉาบปูน และอีกทั้งไม่ยึดเงินทุกกรณี หากไม่สามารถไปต่อได้ โครงการเราจะตั้งอยู่ถนนเทพรักษ์ซอยเทพรักษ์ 49 ใกล้ BTS สายสีเขียวสถานีสายหยุด และสายสีชมพูวัดพระศรี ใกล้สถานที่สำคัญ สิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย เชื่อมต่อถนนพหลโยธินและสุขาภิบาล 5 เข้าออกสะดวก ใกล้รถไฟฟ้าสายสีเขียว BTS สายหยุด เพียง 9 นาที* Central Plaza Ramintra 14 นาที Big C สะพานใหม่ 12 นาที ตลาดยิ่งเจริญ 14 นาที Big C สุขาภิบาบ 8 นาที ตลาดถนอมมิตร 12 นาที EASE PARK 18 นาที The Jas Ramintra 16 นาที ไม่เกิน 20 นาทีจากสถานที่ต่างๆ ใกล้แค่เอื้อม ไม่มีสะดุด สะดวกทุกที่ไม่ว่าจะที่ไหน ชีวิตดีๆ เดินทางสะดวก ไม่จำเป็นต้องรอครับ โปรทาวน์โฮมสำหรับคนพิเศษเช่นคุณ จองเพียง 5,000 บาท รับทันที ส่วนลดเงินสดมูลค่า 300,000 บาท (ทาวน์โฮม) ต่อเติมห้องครัวหลังบ้าน 100,000 บาท ฟรี! ค่าโอนและภาษี กว่า 120,000 บาท ฟรี หลังคาโรงจอดรถ 48,000 บาท ฟรี!!* ปั๊มน้ำ 150 วัตต์และถังเก็บน้ำ 400 ลิตร 11,000 บาท ฟรี! เหล็กดัดชั้นล่าง 21,000 บาท ฟรี! มุ้งลวดชั้นล่าง + มุ้งลวดชั้นบน 7,000 บาท ฟรี! ลงเสาเข็มลึกเท่าตัวบ้านทั้งหน้าและหลัง 20,000 บาท ฟรี!* +รวมมูลค่ากว่า 327,000 บาท+ ฟรี! *พิเศษสำหรับจอง 10 หลังแรกครับ! ยกเว้นห้องที่จัดโปร 2.89 ล้าน *เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด . สำนักงานขายหมู่บ้านร่มเย็นฯ เปิด จันทร์-อาทิตย์ เวลา 8:30 - 17:30 ให้คำปรึกษาเรื่องบ้านฟรี ไม่คิดค่าใช้จ่าย จองแล้วไม่ถูกใจคืนเงินทุกกรณี ที่ตั้งโครงการ : 24 ซอย รามอินทรา 5 แยก 47-7 แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร 10220
ชาวต่างชาติสามารถถือครองกรรมสิทธิ์ในตัวอาคารสำหรับทาวน์เฮ้าส์ในชื่อของตัวเองได้ แต่จะไม่สามารถถือครองกรรมสิทธิ์ในที่ดินที่ใช้ปลูกสร้างทาวน์เฮ้าส์ได้
ชาวต่างชาติไม่สามารถถือครองกรรมสิทธิ์ที่ดินในประเทศไทยได้ ดังนั้นจำเป็นต้องถือครองด้วยวิธีการถือสัญญาเช่าระยะยาว 30 ปี หรือว่าการซื้อที่ดินภายในชื่อของบริษัทจดทะเบียนเท่านั้น
หากคนไทยแต่งงานกับชาวต่างชาติ แล้วต้องการจะซื้อบ้านหรือที่ดิน แล้วทำการโอนกรรมสิทธิ์ในชื่อของคู่สมรสชาวต่างชาตินั้น ตามกฎหมายไทยจะไม่ให้ชาวต่างชาติ ถือครองที่ดินในประเทศไทยได้ ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้
แต่หากมีความยินยอมระหว่างกันก็สามารถโอนเป็นชื่อคู่สมรสคนไทยได้ตามปรกติ โดยจะมีความซับซ้อนขึ้นอีกเล็กน้อย แบ่งเป็นกรณี
1. "คู่สมรสชาวต่างชาติเตินทางไปที่กรมที่ดินด้วยไม่ได้" จะไม่สามารถใช้เอกสารมอบอำนาจแบบคนไทยได้ แต่จะต้องขอบันทึกถ้อยคำรับรองว่าเงินทั้งหมดที่นำมาซื้อบ้านหรือที่ดินนี้ เป็นทรัพย์สินส่วนตัว ไม่ใช่สินสมรส และให้หน่วยงาน เช่น สถานเอกอัครราชทูต สถานกงสุล หรือโนตารีพับลิค ทำการรับรองว่าทั้งคู่เป็นสามี ภรรยาจริง และให้คู่สมรสคนไทยนำเอกสารรับรอง (เอกสารตัวจริง) ไปดำเนินการต่อที่กรมที่ดินเองต่อไป
2. "หากคู่สมรสชาวต่างชาติสามารถเดินทางไปพร้อมกับคนไทยที่เป็นคู่สมรสได้" ก็แค่ยินดีเซ็นรับรองว่าบ้านหรือที่ดินแปลงที่กำลังจะซื้อกันนี้ จะตกเป็นกรรมสิทธิ์ของคู่สมรสคนไทยเพียงฝ่ายเดียวเท่านั้น
หากคุณได้เข้าเยี่ยมชมโครงการ บ้านร่มเย็นฯ บางเขน-เทพรักษ์ และตัดสินใจเลือกยูนิตที่ต้องการแล้ว คุณต้องเตรียมตัวกับเรื่องต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
- โอนเงินมัดจำการจอง
- ทำสัญญาตกลงซื้อขาย (อาจจะมีการชำระเงินเพิ่มบางส่วน)
- ผ่อนชำระเงินดาวน์ตามงวดที่ตกลง (ถ้ามี)
- ทำเรื่องเอกสารเพื่อขอกู้ยืมกับธนาคาร
- กำหนดการตรวจรับบ้าน
- หากพบเจอปัญหาการตรวจรับ ให้ลงรายการและแจ้งโครงการให้แก้ไข
- ตรวจรับบ้านรอบสุดท้าย
- กำหนดการโอนกรรมสิทธิ์ และ เซ็นสัญญากู้ยืมกับธนาคาร
หากอยากกู้ซื้อบ้าน หรือ คอนโด ให้ผ่านการพิจารณาจากธนาคารง่ายๆ ควรวางแผนให้กับตัวเองดังนี้
1. พยายามเคลียร์หนี้สินให้หมดก่อน
- เพราะธนาคารจะนำตัวเลขหนี้สินเหล่านั้นมาเป็นส่วนพิจารณาด้วย คุณจึงควรจัดการหนี้สินเหล่านั้นให้หมดเรียบร้อยก่อน หรือ ทำให้จำนวนงวดผ่อนเหลือน้อยที่สุดก่อน จะเป็นการง่ายต่อการพิจารณาสินเชื่อ
2. พยายามทำตัวเลขเดินบัญชี Statement ให้ดูดี
- สิ่งที่ควรดำเนินการควบคู่ไปกับการลดตัวเลขหนี้สิน คือการมีตัวเลขในบัญชีที่ดูดีไปด้วย หรือที่เรียกกันว่า การเดินรายการบัญชี (เดิน Statement) เพราะเป็นส่วนที่ธนาคารจะนำมาพิจารณาย้อนหลัง อาจจะดูตัวเลขย้อนหลัง 6-12 เดือน
3. มีเงินดาวน์บ้านเอาไว้สักก้อน
- หากคุณเริ่มมองหาบ้านสักหลังไว้แล้ว คุณควรจะมีเงินดาวน์ไว้ช่วยทำให้ทางธนาคารสามารถปล่อยสินเชื่อส่วนที่เหลือให้ได้สูงขึ้น และ ง่ายขึ้น อาจจะสัก 5-20% ขึ้นอยู่กับโครงการ และ สายอาชีพและแหล่งรายได้ของผู้กู้เองด้วย
ในยุคปัจจุบัน พบว่ามีผู้ที่สนใจซื้อบ้านมือสองเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนที่มากขึ้น เพราะด้วยหลายๆเหตุผลที่ต้องการ ทั้งยังอยากใกล้ชิดกับครอบครัว ใกล้สถานศึกษา โรงพยาบาล และอยากใช้ชีวิตสะดวกมากขึ้น ซึ่งการจะให้ได้บ้านในลักษณะนี้ จำเป็นต้องเพิ่มทางเลือกให้มากขึ้น ด้วยการมองไปที่บ้านมือสอง ซึ่งข้อดีของบ้านมือสองมีอะไรบ้าง ลองพิจารณาจาก 5 เหตุผลนี้
1. ราคาที่เข้าถึงได้
- บ้านมือสองมักมีราคาที่เข้าถึงได้มากกว่าบ้านใหม่ในทำเลเดียวกัน และยังสามารถต่อรองราคาได้สูงอีกด้วย
2. ได้เห็นปัญหาของบ้าน
- ท่านจะสามารถรู้ถึงปัญหาที่อาจเกิดขึ้น หรือ กำลังเกิดขึ้นอยู่ในขณะนั้น เช่น ท่อตัน, หลังคารั่ว พื้นหรือกำแพงทรุด ซึ่งนำไปพิจาณาว่าจะซ่อม หรือ มองหลังอื่นแทน
3. วัสดุคุณภาพ
- บ้านมือสองที่มีอายุมากขึ้น มักมีคุณภาพของวัสดุที่ดีกว่าบ้านมือ 1 เช่น เสา-คานที่แข็งแรงมากกว่า เพราะพิสูจน์จากการผ่านมาหลายฝน หลายหนาวมาแล้ว
4. เข้าอยู่ได้ทันที
- บ้านมือสองมักพร้อมเข้าอยู่ทันทีหลังการซื้อ ไม่ต้องรอให้การก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์ อีกทั้งยังอาจจะไม่ต้องซื้อของเข้าบ้านเพิ่มเติม จากบ้านที่ขายพร้อมเฟอร์นิเจอร์
5. การสำรวจสภาพแวดล้อม
- ท่านจะมีโอกาสสำรวจและเรียนรู้เกี่ยวกับสภาพแวดล้อมและชุมชนโดยรอบก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ ทั้งเรื่องของเพื่อนบ้าน, สิ่งอำนวยความสะดวก, และปัจจัยอื่น ๆ ที่มีผลต่อคุณภาพชีวิตของท่าน