- ขายบ้านคุณตอนนี้!
- สมัครสมาชิก / เข้าสู่ระบบ
-
ภาษาไทย- th
-
THB - ฿
อสังหาริมทรัพย์นี้เป็น คอนโด สำหรับขาย ขนาด 2 ห้องนอน มีพื้นที่ใช้สอย 64 ตรม. ซึ่งยูนิตนี้อยู่ในโครงการ วีเรสสิเดนซ์พายัพ บนทำเลของ สันพระเนตร, เชียงใหม่ และสร้างเสร็จแล้วเมื่อ ม.ค. 2562 ซึ่งคุณสามารถซื้อ คอนโด ได้ที่ราคา ฿3,710,000 (฿57,969/ตรม.) หรือทำสัญญาเช่าระยะยาว ที่ราคาค่าเช่า ฿15,000 ต่อเดือน
ขายคอนโดวีเรสซิเดนท์พายัพ เชียงใหม่ ขนาด 64 ตร.ม. 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ มีห้องนั่งเล่นและรับประทานอาหาร ห้องมุม ชั้น 6 มีระเบียง ตึกA เฟอร์นิเจอร์ครบ เครื่องปรับอากาศ เครื่องทำน้ำอุ่น ตู้เย็น เตาไฟฟ้า เครื่องดูดควัน ไมโครเวฟ ทีวี เครื่องซักผ้า สิ่งอำนวยความสะดวกในโครงการ ฟิตเนส สระว่ายน้ำ รปภ. CCTV สถานที่ใกล้เคียง : 100เมตรจาก มหาวิทยาลัยพายัพ บิ๊กซีเอ็กตร้า , เซ็นทรัลเฟสฯ, ถนนวงแหวนรอบ2
ชาวต่างชาติสามารถถือครองกรรมสิทธิ์ในคอนโดมิเนียมได้ไม่เกินร้อยละ 49 ของจำนวนห้องทั้งหมดในโครงการ และ หากเป็นยูนิตที่ถือครองโดยคนไทย หรือ ถือครองแบบสัญญาเช่าระยะยาว 30 ปีนั้น ก็สามารถเปลี่ยนเป็นการถือครองโดยชาวต่างชาติได้เช่นกัน หากโควต้ารวมทั้งหมดในโครงการยังไม่ถึง 49%
หากคนไทยแต่งงานกับชาวต่างชาติ แล้วต้องการจะซื้อบ้านหรือที่ดิน แล้วทำการโอนกรรมสิทธิ์ในชื่อของคู่สมรสชาวต่างชาตินั้น ตามกฎหมายไทยจะไม่ให้ชาวต่างชาติ ถือครองที่ดินในประเทศไทยได้ ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้
แต่หากมีความยินยอมระหว่างกันก็สามารถโอนเป็นชื่อคู่สมรสคนไทยได้ตามปรกติ โดยจะมีความซับซ้อนขึ้นอีกเล็กน้อย แบ่งเป็นกรณี
1. "คู่สมรสชาวต่างชาติเตินทางไปที่กรมที่ดินด้วยไม่ได้" จะไม่สามารถใช้เอกสารมอบอำนาจแบบคนไทยได้ แต่จะต้องขอบันทึกถ้อยคำรับรองว่าเงินทั้งหมดที่นำมาซื้อบ้านหรือที่ดินนี้ เป็นทรัพย์สินส่วนตัว ไม่ใช่สินสมรส และให้หน่วยงาน เช่น สถานเอกอัครราชทูต สถานกงสุล หรือโนตารีพับลิค ทำการรับรองว่าทั้งคู่เป็นสามี ภรรยาจริง และให้คู่สมรสคนไทยนำเอกสารรับรอง (เอกสารตัวจริง) ไปดำเนินการต่อที่กรมที่ดินเองต่อไป
2. "หากคู่สมรสชาวต่างชาติสามารถเดินทางไปพร้อมกับคนไทยที่เป็นคู่สมรสได้" ก็แค่ยินดีเซ็นรับรองว่าบ้านหรือที่ดินแปลงที่กำลังจะซื้อกันนี้ จะตกเป็นกรรมสิทธิ์ของคู่สมรสคนไทยเพียงฝ่ายเดียวเท่านั้น
หากคุณได้เข้าเยี่ยมชมโครงการ วีเรสสิเดนซ์พายัพ และตัดสินใจเลือกยูนิตที่ต้องการแล้ว คุณต้องเตรียมตัวกับเรื่องต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
- โอนเงินมัดจำการจอง
- ทำสัญญาตกลงซื้อขาย (อาจจะมีการชำระเงินเพิ่มบางส่วน)
- ผ่อนชำระเงินดาวน์ตามงวดที่ตกลง (ถ้ามี)
- ทำเรื่องเอกสารเพื่อขอกู้ยืมกับธนาคาร
- กำหนดการตรวจรับบ้าน
- หากพบเจอปัญหาการตรวจรับ ให้ลงรายการและแจ้งโครงการให้แก้ไข
- ตรวจรับบ้านรอบสุดท้าย
- กำหนดการโอนกรรมสิทธิ์ และ เซ็นสัญญากู้ยืมกับธนาคาร
ในสภาพเศรษฐกิจปัจจุบัน ทำให้หลายคนมองหาการซื้อคอนโดมือสอง เพื่อเป็นที่อยู่อาศัยกันมากขึ้น เนื่องด้วยเหตุปัจจัยหลายอย่าง ดังนี้
1. คอนโดมือสองนั้น มีราคาที่ถูกกว่าคอนโดมือหนึ่งในยุคนี้อย่างเห็นได้ชัด หากเทียบกับขนาดห้อง และทำเลที่ใกล้เคียงกัน
2. ได้เห็นบรรยากาศโดยรอบทั้งภายใน และภายนอกโครงการได้อย่างชัดเจน ทำให้ประเมินการใช้ชีวิต หากต้องอยู่ที่นี่ได้ง่ายขึ้น
3. มีโอกาสได้ทำเลที่ตั้งที่ดีกว่าคอนโดมือหนึ่ง เพราะนับวันพื้นที่ในทำเลดีๆ หาได้ยากยิ่งนักและมีราคาสูงมาก แต่ต้องยอมรับกับสภาพและอายุการก่อสร้างของคอนโดมือสองให้ได้ด้วยเช่นกัน
4. ส่วนใหญ่แล้วคอนโดมือสองจะถูกตกแต่ง หรือ Built In เฟอร์นิเจอร์อย่างครบถ้วนแล้ว จึงสามารถย้ายเข้าอยู่ได้ทันที
5. วัสดุที่ใช้ในการก่อสร้างคอนโดมือสองหลายโครงการมีคุณภาพดีกว่า เนื่องจากราคาของวัสดุในช่วงที่ก่อสร้างอาจจะไม่ได้สูงเท่ากับในยุคนี้ ทำให้ผู้ประกอบการเลือกใช้วัสดุคุณภาพสูง