- ขายบ้านคุณตอนนี้!
- สมัครสมาชิก / เข้าสู่ระบบ
-
ภาษาไทย- th
-
THB - ฿
- ซื้อ
- ประเภทอสังหาฯใน กรุงเทพมหานคร
- กรุงเทพมหานคร
- ดูประกาศล่าสุด
- ซื้อบ้านกับ BPP ดีอย่างไร?
- เช่า
- ขาย
- โครงการทั้งหมด
อสังหาริมทรัพย์นี้เป็น ทาวน์เฮ้าส์ สำหรับขาย ขนาด 3 ห้องนอน มีพื้นที่ใช้สอย 172 ตรม. ซึ่งยูนิตนี้อยู่ในโครงการ บนทำเลของ ลาดพร้าว, กรุงเทพมหานคร และสร้างเสร็จแล้วเมื่อ เม.ย. 2557 ซึ่งคุณสามารถซื้อ ทาวน์เฮ้าส์ นี้ได้ที่ราคา ฿8,800,000 (฿51,163/ตรม.)
ขายทาวน์โฮมหรู 3 ชั้น โครงการ The Landmark เอกมัย-รามอินทรา ใกล้ทางด่วน CDC Cenntral Eastville ที่ตั้ง : ถ.สุคนธสวัสดิ์ 25 แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว กรุงเทพ 10230 เนื้อที่ดิน : 25.6 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย : 172 ตร.ม. จำนวนห้อง : 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ ตกแต่งบิ้วอิน เฟอร์นิเจอร์ครบ พร้อมเข้าอยู่ : - เครื่องปรับอากาศ 6 เครื่อง - ผ้าม่าน มุ้งจีบ - เครื่องปั๊มน้ำ แทงค์น้ำ - เครื่องกรองน้ำ - ต่อเติมหลังคาโรงจอดรถ + ตู้เก็บของ - ต่อเติมห้องกระจก + พื้นที่โซนซักล้างหลังบ้าน - ต่อเติมสวนหลังบ้าน - ติดตั้งประตูหน้าบ้าน Digital Door Lock - Built-in ชั้นวางทีวี ตู้เก็บของ - Built-in เตียง ตู้ข้างเตียง ตู้โชว์ - Built-in ชั้นวางของ โต๊ะเครื่องแป้ง - Built-in Walk-in Closet - โซฟาปรับเอนไฟฟ้า - โต๊ะกินข้าวหินอ่อน พร้อมเก้าอี้ - โต๊ะทำงาน ทิศหน้าทรัพย์ : ใต้ ปีที่สร้าง : 2558 ส่วนกลาง : สวนสาธารณะขนาดใหญ่ ต้นไม้ใหญ่ร่มรื่น มีฟิตเนส สระว่ายน้ำ และ รปภ.ดูแล 24 ชั่วโมง ทำเล : สุคนธสวัสดิ์ เกษตรนวมินทร์ เลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา ใกล้ทางขึ้นลงทางด่วน สะดวกในการเดินทางเข้าออกเมือง ใกล้แหล่งอำนวยความสะดวกครบครัน ไม่ว่าจะเป็น - The Walk เกษตร-นวมินทร์ - Central Eastville - CDC - Crystal Park - โรงเรียนเลิศหล้า - โรงเรียนสตรีวิทยา 2 - โรงเรียนอนุบาลโชคชัย
ชาวต่างชาติสามารถถือครองกรรมสิทธิ์ในตัวอาคารสำหรับทาวน์เฮ้าส์ในชื่อของตัวเองได้ แต่จะไม่สามารถถือครองกรรมสิทธิ์ในที่ดินที่ใช้ปลูกสร้างทาวน์เฮ้าส์ได้
ชาวต่างชาติไม่สามารถถือครองกรรมสิทธิ์ที่ดินในประเทศไทยได้ ดังนั้นจำเป็นต้องถือครองด้วยวิธีการถือสัญญาเช่าระยะยาว 30 ปี หรือว่าการซื้อที่ดินภายในชื่อของบริษัทจดทะเบียนเท่านั้น
หากคนไทยแต่งงานกับชาวต่างชาติ แล้วต้องการจะซื้อบ้านหรือที่ดิน แล้วทำการโอนกรรมสิทธิ์ในชื่อของคู่สมรสชาวต่างชาตินั้น ตามกฎหมายไทยจะไม่ให้ชาวต่างชาติ ถือครองที่ดินในประเทศไทยได้ ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้
แต่หากมีความยินยอมระหว่างกันก็สามารถโอนเป็นชื่อคู่สมรสคนไทยได้ตามปรกติ โดยจะมีความซับซ้อนขึ้นอีกเล็กน้อย แบ่งเป็นกรณี
1. "คู่สมรสชาวต่างชาติเตินทางไปที่กรมที่ดินด้วยไม่ได้" จะไม่สามารถใช้เอกสารมอบอำนาจแบบคนไทยได้ แต่จะต้องขอบันทึกถ้อยคำรับรองว่าเงินทั้งหมดที่นำมาซื้อบ้านหรือที่ดินนี้ เป็นทรัพย์สินส่วนตัว ไม่ใช่สินสมรส และให้หน่วยงาน เช่น สถานเอกอัครราชทูต สถานกงสุล หรือโนตารีพับลิค ทำการรับรองว่าทั้งคู่เป็นสามี ภรรยาจริง และให้คู่สมรสคนไทยนำเอกสารรับรอง (เอกสารตัวจริง) ไปดำเนินการต่อที่กรมที่ดินเองต่อไป
2. "หากคู่สมรสชาวต่างชาติสามารถเดินทางไปพร้อมกับคนไทยที่เป็นคู่สมรสได้" ก็แค่ยินดีเซ็นรับรองว่าบ้านหรือที่ดินแปลงที่กำลังจะซื้อกันนี้ จะตกเป็นกรรมสิทธิ์ของคู่สมรสคนไทยเพียงฝ่ายเดียวเท่านั้น
หากคุณได้เข้าเยี่ยมชมโครงการ The Landmark Ekamai-Ramindra และตัดสินใจเลือกยูนิตที่ต้องการแล้ว คุณต้องเตรียมตัวกับเรื่องต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
- โอนเงินมัดจำการจอง
- ทำสัญญาตกลงซื้อขาย (อาจจะมีการชำระเงินเพิ่มบางส่วน)
- ผ่อนชำระเงินดาวน์ตามงวดที่ตกลง (ถ้ามี)
- ทำเรื่องเอกสารเพื่อขอกู้ยืมกับธนาคาร
- กำหนดการตรวจรับบ้าน
- หากพบเจอปัญหาการตรวจรับ ให้ลงรายการและแจ้งโครงการให้แก้ไข
- ตรวจรับบ้านรอบสุดท้าย
- กำหนดการโอนกรรมสิทธิ์ และ เซ็นสัญญากู้ยืมกับธนาคาร
หากอยากกู้ซื้อบ้าน หรือ คอนโด ให้ผ่านการพิจารณาจากธนาคารง่ายๆ ควรวางแผนให้กับตัวเองดังนี้
1. พยายามเคลียร์หนี้สินให้หมดก่อน
- เพราะธนาคารจะนำตัวเลขหนี้สินเหล่านั้นมาเป็นส่วนพิจารณาด้วย คุณจึงควรจัดการหนี้สินเหล่านั้นให้หมดเรียบร้อยก่อน หรือ ทำให้จำนวนงวดผ่อนเหลือน้อยที่สุดก่อน จะเป็นการง่ายต่อการพิจารณาสินเชื่อ
2. พยายามทำตัวเลขเดินบัญชี Statement ให้ดูดี
- สิ่งที่ควรดำเนินการควบคู่ไปกับการลดตัวเลขหนี้สิน คือการมีตัวเลขในบัญชีที่ดูดีไปด้วย หรือที่เรียกกันว่า การเดินรายการบัญชี (เดิน Statement) เพราะเป็นส่วนที่ธนาคารจะนำมาพิจารณาย้อนหลัง อาจจะดูตัวเลขย้อนหลัง 6-12 เดือน
3. มีเงินดาวน์บ้านเอาไว้สักก้อน
- หากคุณเริ่มมองหาบ้านสักหลังไว้แล้ว คุณควรจะมีเงินดาวน์ไว้ช่วยทำให้ทางธนาคารสามารถปล่อยสินเชื่อส่วนที่เหลือให้ได้สูงขึ้น และ ง่ายขึ้น อาจจะสัก 5-20% ขึ้นอยู่กับโครงการ และ สายอาชีพและแหล่งรายได้ของผู้กู้เองด้วย
ในยุคปัจจุบัน พบว่ามีผู้ที่สนใจซื้อบ้านมือสองเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนที่มากขึ้น เพราะด้วยหลายๆเหตุผลที่ต้องการ ทั้งยังอยากใกล้ชิดกับครอบครัว ใกล้สถานศึกษา โรงพยาบาล และอยากใช้ชีวิตสะดวกมากขึ้น ซึ่งการจะให้ได้บ้านในลักษณะนี้ จำเป็นต้องเพิ่มทางเลือกให้มากขึ้น ด้วยการมองไปที่บ้านมือสอง ซึ่งข้อดีของบ้านมือสองมีอะไรบ้าง ลองพิจารณาจาก 5 เหตุผลนี้
1. ราคาที่เข้าถึงได้
- บ้านมือสองมักมีราคาที่เข้าถึงได้มากกว่าบ้านใหม่ในทำเลเดียวกัน และยังสามารถต่อรองราคาได้สูงอีกด้วย
2. ได้เห็นปัญหาของบ้าน
- ท่านจะสามารถรู้ถึงปัญหาที่อาจเกิดขึ้น หรือ กำลังเกิดขึ้นอยู่ในขณะนั้น เช่น ท่อตัน, หลังคารั่ว พื้นหรือกำแพงทรุด ซึ่งนำไปพิจาณาว่าจะซ่อม หรือ มองหลังอื่นแทน
3. วัสดุคุณภาพ
- บ้านมือสองที่มีอายุมากขึ้น มักมีคุณภาพของวัสดุที่ดีกว่าบ้านมือ 1 เช่น เสา-คานที่แข็งแรงมากกว่า เพราะพิสูจน์จากการผ่านมาหลายฝน หลายหนาวมาแล้ว
4. เข้าอยู่ได้ทันที
- บ้านมือสองมักพร้อมเข้าอยู่ทันทีหลังการซื้อ ไม่ต้องรอให้การก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์ อีกทั้งยังอาจจะไม่ต้องซื้อของเข้าบ้านเพิ่มเติม จากบ้านที่ขายพร้อมเฟอร์นิเจอร์
5. การสำรวจสภาพแวดล้อม
- ท่านจะมีโอกาสสำรวจและเรียนรู้เกี่ยวกับสภาพแวดล้อมและชุมชนโดยรอบก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ ทั้งเรื่องของเพื่อนบ้าน, สิ่งอำนวยความสะดวก, และปัจจัยอื่น ๆ ที่มีผลต่อคุณภาพชีวิตของท่าน